เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - บัน คีมูน เลขาธิการใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติออกมาเรียกร้องในวันนี้ (22 ธ.ค.) ให้ประเทศผู้บริจาคเพิ่มการให้ความช่วยเหลือฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกมหาพายุไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” พัดถล่ม ในเวลาที่ประเทศนี้กำลังดิ้นรนต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนเงินทุน สำหรับแผนการซ่อมแซมบูรณะประเทศที่ยังต้องเดินหน้าอีกยาวไกล
“เราต้องไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้เป็นอีกวิกฤตที่ถูกลืม” บันกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว หนึ่งวันหลังจากเดินทางไปดูสภาพเมืองตาโกลบาน ซึ่งบอบช้ำเสียหายจากแรงพายุลูกนี้อย่างหนัก
เขาบอกว่า ยูเอ็นได้รับเงินบริจาคเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ได้ขอรับบริจาคไปทั้งสิ้น 791 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาใช้ขยายการบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งถูกมหาพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน พัดโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว
“ผมกำลังวิงวอนให้ประชาคมผู้บริจาค ได้โปรดเร่งส่งความช่วยเหลือ (ให้ฟิลิปปินส์) มากขึ้น” บันระบุ โดยกล่าวเสริมว่าเขาได้หารือกับเอกอัครราชทูตของบรรดาประเทศซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ ที่กรุงมะนิลาวันนี้ (22 ธ.ค.)
เขาบอกว่า รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง และเกิดแรงบันดาลใจ หลังจากเดินทางไปเยือนเมืองตาโกลบานวานนี้ (21) เนื่องจากได้เห็นภาพของ “ประชาชนที่กำลังพยายามซ่อมแซมสิ่งที่เสียหายไปอย่างเต็มกำลังความสามารถ” แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับปัญหามากมายก็ตาม
ทั้งนี้ บัน แสดงการรับทราบว่า ช่วงหลังจากพายุพัดผ่านไปใหม่ๆ มีปัญหาด้านการขนส่งเกิดขึ้นตามมา ทำให้ความช่วยเหลือถูกส่งไปไม่ถึงมือผู้เดือดร้อน ซึ่งอยู่อาศัยตามพื้นที่ห่างไกล ในภาคกลางของฟิลิปปินส์ ที่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นลูกนี้
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่ายูเอ็นจะยังยึดมั่นในพันธสัญญาที่จะช่วยเหลือฟิลิปปินส์ ในยามที่ประเทศนี้กำลังเตรียมการวางแผนการที่ต้องอาศัยความมานะบากบั่นอย่างสูง เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากพายุลูกนี้
ตามข้อมูลของรัฐบาล มหาพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้พัดถล่มพื้นที่ภาคกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีระดับความรุนแรงเทียบเท่า สึนามิ พัดกวาดชุมชนทั้งหมดจนเสียหายหนักหลายแห่ง อีกทั้งทำให้ประชาชนถึง 6,102 ชีวิตล้มตาย และ 1,779 คนสูญหาย ขณะที่อีก 4.4 ล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่
มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ขนาดเท่าประเทศโปรตุเกสแห่งนี้ คิดเป็นเงิน 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่าต้องใช้งบประมาณ 8.17 พันล้านดอลลาร์ สำหรับแผนการฟื้นฟูประเทศครั้งใหญ่ที่ต้องใช้เวลานานกว่า 4 ปีคราวนี้