เอเจนซีส์/เอพี - สื่อต่างประเทศ เช่น อัลญะซีเราะห์ และเอพี รายงานสถานการณ์ทางการเมืองในไทยเริ่มตึงเครียดมากขึ้นหลังจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านของไทย “พรรคประชาธิปัตย์” ประกาศที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2014 ในขณะที่อดีตเลขาธิการพรรคและผู้นำม็อบต้าน สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เรียกให้มีการชุมนุมใหญ่วันนี้ (22) ในความพยายามที่จะขับไล่รัฐบาลและให้ประเทศเข้าสู่โหมดการปฏิรูป ซึ่งมติไม่ส่งลงครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์สะท้อนถึงจุดยืนกลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปประเทศ
อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้งใหญ่หลังจากทางพรรคได้ลงมติในการประชุมพรรคที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (21)
“การประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารและอดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มีมติว่าทางพรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงการเลือกตั้งใหญ่ที่ได้มีกำหนดในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2014” อภิสิทธิ์กล่าวในงานแถลงข่าว
อภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า มติครั้งนี้มีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการปฎิรูปจะเกิดขึ้นได้จริง ในขณะที่นายกรัฐมนตรีรักษาการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อหวังจะลดแรงกดดันทางการเมืองลง ได้ยืนยันว่าการจัดเลือกตั้งทั่วไปจะยังมีอยู่แน่นอนถึงแม้ว่าพรรคฝ่ายค้านอันดับของประเทศจะปฏิเสธไม่เข้าร่วมก็ตาม
มติของพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาครั้งนี้สะท้อนถึงจุดยืนของผู้ชุมนุมหลายแสนคนที่รวมตัวกันบนถนนสายหลักทางการเมืองของประเทศเพื่อต้องการให้ยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีรัฐบาลชั่วคราวที่มาจากการแต่งตั้งจัดให้มีการปฏิรูปให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่จะให้มีการเลือกตั้งใหญ่
ทางด้าน พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยว่ามติของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ไม่อยู่เหนือความคาดหมาย และการที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ต้องมีมติเช่นนั้นเพราะ พวกเขารู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งได้ “มันเป็นแค่เกมส์การเมืองเท่านั้น” พร้อมพงศ์กล่าว “แต่ในท้ายที่สุดพวกนั้นมีแค่จุดประสงค์เดียวคือล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์และล้มระบบประชาธิปไตย”
ในเช้าวันเสาร์ (21) ยิ่งลักษณ์ได้ประกาศแผนอย่างเป็นทางการเพื่อจะให้มีการปฏิรูปแต่ต้องมีหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งใหญ่ไปแล้ว รวมไปถึงให้ผู้สมัครให้คำสัตย์ที่จะสนับสนุนการเกิดสภาปฎิรูปขึ้นหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาแล้ว และสมาชิกสภาปฏิรูปที่ได้มาจากทุกภาคส่วนของสังคมต้องทำงานให้เสร็จภายใน 2ปี
นอกจากนี้ ผู้นำการประท้วง สุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกการชุมนุมใหญ่ในวันนี้ (22) เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เหตุเพราะในสายตาม็อบต้านแล้ว รัฐบาลชุดนี้ได้หมดความชอบธรรม หากปล่อยให้รักษาการต่อจะมีอิทธิพลเหนือข้าราชการและตำรวจ และจะส่งผลถึงการเลือกตั้งที่ไม่อาจปราศจาการโกงไปได้ โดยทางในการชุมนุมจะมีถึง 5 เวทีใหญ่ และ 10 เวทีย่อยเพื่อรองรับคลื่นผู้ชุมนุม
อนึ่ง การบอยคอตการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรกเกิดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในปี 2006 ซึ่งในกฎหมายรัฐธรรมไทย “การบอยคอต” มีผลเพราะผู้ชนะการเลือกตั้งไม่สามารถถูกรับรองได้ เพราะผู้ชนะในเขตการเลือกตั้งนั้นอาจไม่สามารถได้เสียงเกินกว่าเสียงขั้นต่ำ 20% ที่ถูกกำหนดจากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนทั้งหมดในเขตนั้น และทำให้ไม่สามารถมีการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรได้
แต่ในครั้งนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ซึ่งเอพีได้วิเคราะห์ว่า กฏหมายการเลือกตั้งที่ได้รับการแก้ไขทำให้มีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้เกิดมีสภาผู้แทนราษฎรได้ และพระประมุขของประเทศที่มีพระชนมายุสูงถึง 86 พรรษาดูเหมือนที่จะมีบทบาทน้อยลงในความขัดแย้งทางการเมือง นอกจากนี้เอพียังวิเคราหะต่อว่า ในขณะที่ศาลไทยที่ยังคงมีแนวความคิดเชิงอนุรักษนิยม และเป็นปฏิปักษ์ต่อทักษิณ เหล่าผู้สนับสนุนทักษิณนั้นกลับมีจำนวนที่มากกว่าและมีการจัดองค์กรที่แน่นอน และพวกคนเหล่านั้นได้พิสูจน์แล้วว่า กลุ่มพวกเขามีศักยภาพในการก่อจลาจลได้ด้วยตนเอง
