“ยิ่งลักษณ์” หวังม็อบนึกถึงกฎหมาย ยันไม่ใช่คนดื้อแต่ไม่อยากหักกติกา เน้นพูดจาทางออก ไล่ไปคุยวงปาหี่ ยกความเชื่อมั่นธุรกิจขู่ ยันพร้อมคุย กปปส.เลื่อนวันเลือกตั้งแต่โยนเวทีปฏิรูปดู ท่องคาถาหันหน้าหากัน อ้างลาออกไม่ได้ เตือน ปชป.ยึดหลักการอย่าบอยคอต
วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมรักษาการ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางโดยรถไฟจาก จ.สุรินทร์ มา จ.ศรีสะเกษ ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะเดินทางไปที่บ้านพักจะเตรียมความพร้อมอย่างไรว่า หวังว่าผู้ชุมนุมจะชุมนุมภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ขอความกรุณาว่าแม้ว่าผู้ชุมนุมจะมีสิทธิในการชุมนุมเรียกร้อง แต่ขอฝากให้คำนึงถึงกฎหมาย สำหรับตนเองนั้นถือว่าได้ชี้แจงไปหมดแล้ว และเราเองก็ไม่ใช่จะเป็นคนดื้อรั้น แต่เราก็ไม่อยากให้บ้านเมืองหักกติกาทุกคนต่างมีหน้าที่บทบาทของตัวเอง หวังว่าการพูดจากันจะเป็นทางออกที่ดีของประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้หลายกลุ่มได้เปิดเวทีการพูดคุยกันให้เกิดแนวทางปฏิรูปที่จะทำอย่างไรให้ประเทศของเราเดินหน้าได้ อยากขอร้องผู้ชุมนุมให้ใช้กลไกการปฏิรูป จะได้ให้บ้านเมืองของเราเดินได้ และตอนนี้เราก็เป็นห่วงจากสถานการณ์ต่างๆ ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ การลงทุน หากการลงทุนไม่สามารถเดินหน้าได้ก็จะเกิดการย้ายฐาน ดังนั้นขอความกรุณารัฐบาลพร้อมที่จะเปิดเวทีรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน อะไรที่เราทำได้ เราก็ยินดีที่จะทำ ต้องขอความเห็นใจและความเข้าใจด้วยว่า บางอย่างเป็นเพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งเราไม่สามารถให้ได้ เพราะโดยส่วนตัวไม่มีอำนาจเข้าไปตรงนั้นได้
เมื่อถามว่า วันนี้รัฐบาลมีความหวังที่กลุ่ม กปปส.จะเข้ามาพูดคุยหารือร่วมกันหรือไม่ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ นายกฯ กล่าวว่า เพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ เราก็มีความหวัง และหวังว่าคนไทยทุกคนห่วงประเทศ และหันหน้ามาคุยกัน ถึงแม้เราจะไม่ได้ข้อสรุปในวันนนี้ แต่ถ้าเราคุยกันตั้งแต่จุดเริ่มต้น อย่างน้อยก็จะมีทางออก และมีความหวัง เชื่อว่าทุกคนอยากจะมีความหวังด้วยการเปิดการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า ขณะที่ กกต.เองให้ฝ่ายการเมืองมาพูดคุยกันเองก่อน เรื่องของการเลื่อนวันเลือกตั้ง มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ต้องถามทางกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เพราะเราเองพร้อมอยู่แล้วที่จะพูดคุย และให้ความร่วมมือ อย่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฎิรูป เรายินดีรับฟัง และขอให้เป็นเวทีกลางของทุกคน ขอให้ทุกๆ ภาคส่วน ภาคประชาชน เอกชน ภาครัฐ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง และเฉพาะพี่น้องประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดก็คงอยากรับฟังปัญหาต่างๆ และอยากเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า อะไรที่จะรักษาอาการป่วยของประเทศไทยได้ในขนาดนี้ นายกฯ ตอบว่า ทุกคนจะต้องมุ่งมั่นรักษาความสงบ หันหน้าเข้าหากัน และพูดคุยกัน อันนี้ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ เมื่อถามว่า ทาง 40 ส.ว.สรรหา เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกพระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา 187 เลื่อนการเลือกตั้ง สามารถทำได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของข้อกฎหมายที่ตนได้หารือไปแล้วนั้น ฝ่ายกฎหมายเองก็ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ควรจะต้องฝากข้อกฎหมายข้อนี้ไปเวทีปฏิรูปด้วย ในการนำความเห็นของนักวิชาการ ทุกความคิดเห็นไปศึกษาดูว่าจะมีวิธีใดบ้างที่จะสามารถเปิดเวทีปฏิรูปได้เร็วที่สุด เป็นเวทีของทุกคนที่ยอมรับภายใต้กติกาเดียวกัน
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ยังคาดหวังว่าจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ต้องเรียกว่าเรามีหน้าที่ที่จะต้องอำนวยกรเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของพี่น้องประชาชนด้วย ถ้าเราไม่เอากติกาเลือกตั้ง เราจะทำอย่างไรให้ประเทศเราอยู่ได้ นี่คือสิ่งที่ตนมองไม่ออก เราไม่ได้บอกกว่าเราจะไม่ปฏิบัติตาม แต่บางครั้งเงื่อนไขนี้เราปฏิบัติไม่ได้ ไม่รู้เราจะปฏิบัติอย่างไร ทำไมเราไม่หันไม่คุยกันบนความเป็นจริงที่สามารถปฏิบัติได้สำหรับทุกคน
เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้ง ได้เตรียมรับมือไว้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า หวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยึดหลักของรัฐธรรมนูญ และพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ยึดหลักกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญมาอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาการสำรวจความคิดเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ก็ดีขึ้น ตนจึงอยากจะเห็นกลไกนี้เป็นกลที่ให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสิน และเป็นกลไกที่ทุกคนจะยอมรับ เมื่อถามว่าวันเปิดรับสมัครลงเลือกตั้งวันแรก นายกฯ มีความพร้อมที่จะนำทีมเพื่อไทยเดินเข้าไปเข้ารับสมัครเลยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเวลาอยู่ ถ้าผลเป็นอย่างไรแล้วจะบอก
จากนั้นเวลา 13.20 น. นายกฯ และคณะได้ลงที่สถานีรถไฟศรีสะเกษ เพื่อเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.ยโสธรต่อไป โดยมีประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมาก
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เนื่องจากว่ามีชายวัยกลางคนได้พยายามที่จะเดินเป่านกหวีดมายังกลุ่มประชาชนที่มารอรับนายกฯ จึงทำให้เกิดเหตุชุลมุนชายกลางคนดังกล่าวถูกต่อยเข้าที่ใบหน้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าไปห้ามปราม พาชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ไป
มีรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ รับดอกกุหลาบจากประชาชนมารอต้อนรับ เนื่องจากดอกกุหลาบไม่ได้เอาหนามออกก่อนทำให้มีรอยข่วนที่มือนายกฯ
