เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดซึ่งจัดทำโดยสำนักวิจัย “แกลลัปโพล” ระบุผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต เชื่อว่าการแยกตัวเป็นเอกราชของประเทศตัวเอง ออกจากโซเวียตเมื่อมากกว่า 20 ปีก่อนนั้น ถือเป็น “ความผิดพลาดที่แสนเจ็บปวด”
ผลสำรวจล่าสุดของแกลลัปที่ทำใน 11 ประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต ที่มีการเผยแพร่ในวันเสาร์ (21) ระบุว่า 51 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนในทั้ง 11 ประเทศมองว่าการล่มสลายของสหภาพโซเวียตถือเป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดมากกว่าจะเป็นเรื่องดี และเชื่อว่าการที่ประเทศต่างๆ ในสหภาพโซเวียตแยกตัวออกมาเป็นเอกราชนั้นถือเป็นเรื่องผิดพลาดโดยผลสำรวจพบว่า มีกลุ่มตัวอย่างเพียง 24 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มองว่าการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ในกรณีของรัสเซีย ผลสำรวจพบว่า ราว 55 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างในแดนหมีขาวระบุว่า วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของตนเลวร้ายย่ำแย่ลงหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต โดยมีกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียเพียง 19 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เชื่อว่าชีวิตของตนดีขึ้น สอดคล้องกับผลสำรวจในอาร์เมเนีย ยูเครน คีร์กิซสถาน ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความเห็นในทิศทางเดียวกัน แต่สวนทางกับผลสำรวจในคาซัคสถาน อาเซอร์ไบจัน และเติร์กเมนิสถานที่กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งเชื่อว่าการแยกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียตส่งผลดีมากกว่า
อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยของแกลลัปเผยว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาย่ำแย่ลงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ทันมีประสบการณ์การใช้ชีวิตในยุคที่สหภาพโซเวียตยังดำรงอยู่ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีลงมาส่วนใหญ่จะระบุในแบบสอบถามว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่
ทั้งนี้ แกลลัปโพลระบุว่า ผลสำรวจดังกล่าวของตนทำการรวบรวมความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 1,000 คนใน 11 ประเทศ คือ รัสเซีย ยูเครน เบลารุส มอลโดวา จอร์เจีย อาเซอร์ไบจัน อาร์เมเนีย คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน เติร์กเมนิสถาน และทาจิกิสถาน
