เอเอฟพี/มาร์เกตวอชต์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นวานนี้ (19) เชื่อความเคลื่อนไหวลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดคือสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่วอลล์สตรีททรงตัวจากการขายทำกำไร หลังปัจจัยดังกล่าวส่งตลาดทุนพุ่งแรงหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ขณะที่ทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 97 เซ็นต์ ปิดที่ 98.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสูดในรอบเกือบ 2 เดือน ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 66 เซ็นต์ ปิดที่ 110.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์ระบุว่า แทบไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดๆที่โน้มน้าวตลาดน้ำมันเลย แต่นักลงทุนยังคงเบิกบานกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรลงเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 75,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม อันเน้นให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (19) กลับปิดในกรอบแคบๆ จากการขายทำกำไร หลังจากปัจจัยข้างต้น กระต้นให้วอลล์สตรีททะยานทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันพุธ (18) ที่ผ่านมา
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 9.50 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,177.47 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.15 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,809.50 จุด แนสแดค ลดลง 11.93 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,058.13 จุด
แมค บลิคซิลเวอร์ ผู้อำนวยการมาร์เบิลเฮด แอสเซต แมนเนจเมนต์ บอกว่าเป็นปกติที่บางครั้งหุ้นจะปรับลดมาจากการขายทำกำไร หลังจากขยับขึ้นอย่างมากหนึ่งวันก่อนหน้านั้น
ด้านราคาทองคำวานนี้ (19) ร่วงลงต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หลังเฟดลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมกราคมและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 41.40 ดอลลาร์ (3.4 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,193.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์