เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันทรงตัววานนี้(20) จากสต็อกเชื้อเพลิงที่ผสมผสานของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ หลังรายงานผลประชุมเฟดเผยเตรียมลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้ ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ฉุดให้ทองคำขยับลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเศษ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 93.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล เป็นการปรับเพิ่ม 9 สัปดาห์ติด แต่ในขณะเดียวกันสต็อกเบนซินกลับลดลง 300,000 บาร์เรล และหน่วยงานแห่งนี้บอกว่าอุปสงค์เบนซินโดยเฉลี่ยช่วง 4 สัปดาห์หลังสุด เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนราวร้อยละ 4
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(20) ปรับลง หลังรายงานการประชุม (minutes)ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารอเมริกา(เฟด) ระบุว่าธนาคารกลางแห่งนี้อาจลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 65.25 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,901.78 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.38 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,781.49 จุด แนสแดค ลดลง 10.28 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,921.27 จุด
ดัชนีทั้ง 3 ตัวซื้อขายในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนจะแกว่งสู่แดนลบ หลังมีการเผยแพร่รายงานการประชุมเฟดระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการลดระดับมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์เร็วๆนี้
ส่วนราคาทองคำวานนี้(20) ลงแรง แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ถูกฉุดโดยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 15.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,258.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์