เอเจนซีส์ - องค์การอนามัยโลก (ฮู) ยืนยันในวันพุธ (18 ธ.ค.) ตามการแถลงก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันของทางการผู้รับผิดชอบของจีนที่ว่า มีหญิงชราผู้หนึ่งเสียชีวิตในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของแดนมังกร จากไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H10N8 นับเป็นมนุษย์รายแรกซึ่งพบว่าติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ ขณะเดียวกัน อนามัยโลกบอกว่า เรื่องนี้ “น่าเป็นห่วง” แต่ยังไม่พบความเป็นไปได้ที่จะมีการติดเชื้อจากคนสู่คน
ฮูระบุในคำแถลงของตนว่า หญิงวัย 73 ปีผู้นี้เสียชีวิตในวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา 6 วันหลังจากเธอติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H10N8 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบในคนมาก่อน ถึงแม้ได้ถูกตรวจพบในสัตว์ปีกมาตั้งแต่ปี 1965 ในประเทศต่างๆ อย่างน้อย 7 ประเทศรวมทั้งจีนด้วย
คำแถลงขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ยังไม่เป็นที่ทราบกันว่าหญิงชราผู้นี้ติดเชื้อมาได้อย่างไร แม้จะเป็นที่ทราบกันอยู่ว่าสัตว์ปีกทั้งที่เป็นสัตว์ป่าและที่เลี้ยงกันในฟาร์มสามารถเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสชนิดนี้ โดยที่ตัวคนไข้ผู้นี้เองก็ได้เคยไปยังตลาดค้าสัตว์ปีกเป็นๆ เมื่อ 4 วันก่อนที่เธอจะล้มป่วย
ฮูบอกว่า หญิงผู้นี้เสียชีวิตที่เมืองหนานชาง เมืองเอกของมณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นมณฑลไม่ติดทะเลที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ทั้งนี้เธอติดเชื้อเพียงคนเดียว โดยที่สมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวตลอดจนบุคคลอื่นๆ ที่เธอติดต่อสัมผัสด้วยนั้น ไม่มีใครแสดงอาการป่วย รวมทั้งไม่พบว่ามีกรณีทำนองเดียวกันรายอื่นๆ ในพื้นที่ดังกล่าว
คำแถลงของฮู เป็นการพูดย้ำสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขของมณฑลเจียงซี แถลงผ่านเว็บไซต์ในวันเดียวกันก่อนหน้านี้ โดยที่ได้อ้างอิงการตรวจสอบยืนยันของศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของจีนว่า แม่เฒ่าผู้นี้ติดเชื้อไวรัส H10N8 จริง รวมทั้งให้รายละเอียดว่า ผู้ป่วยรายนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองหนานชาง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ด้วยอาการปอดบวมรุนแรง ก่อนเสียชีวิตเนื่องจากระบบหายใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 6
กระทรวงสาธารณสุขเจียงซี กล่าวด้วยว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพรุนแรงอื่นๆ ที่ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
เชื้อไวรัส H10N8 นี้ นับเป็นเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ที่ 2 แล้วที่พบในคนเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยที่ต่างก็พบในจีน ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนมีนาคม ได้พบเป็นครั้งแรกว่ามีการระบาดของไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ในคน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 140 คน และเสียชีวิต 45 คน เกือบทั้งหมดนี้อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถควบคุมการระบาดได้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน หลังจากปิดตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิตหลายแห่ง
ทางด้าน ทิโมธี โอเรียลี โฆษกองค์การอนามัยโลกประจำสำนักงานภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของฮูกำลังทำงานร่วมกับทางการจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจไวรัสที่ติดคนสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งแม้ว่ายังไม่รู้ที่มาที่ไป แต่แน่ใจได้ว่า มีสัตว์ปีกเป็นพาหะ และไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย ถ้าหากหลังจากนี้ตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม
โอเรียลีเสริมว่า ทุกครั้งที่เชื้อไวรัสสามารถข้ามผ่านอุปสรรคด้านสายพันธุ์และแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนได้ ล้วนต้องถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง กระนั้น กรณีนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบของทางการจีนแล้ว อีกทั้งไม่มีหลักฐานว่า มีการแพร่เชื้อระหว่างคนกับคนแต่อย่างใด
ผู้เชี่ยวชาญมักมีความสงสัยและกังวล เมื่อใดก็ตามที่พบกรณีเชื้อไข้หวัดนกแพร่เชื้อมาสู่คน ดังจะเห็นได้จากการเฝ้าติดตามสายพันธุ์ H5N1 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 384 ราย นับตั้งแต่ปี 2003 โดยการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่เป็นโรค ทว่า นักวิจัยกลัวว่า ไวรัสไข้หวัดนกอาจกลายพันธุ์และแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วในกลุ่มคน จนกระทั่งกลายเป็นโรคระบาด
ทั้งนี้ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นักวิจัยรายงานว่า พบกรณีแรกที่มีแนวโน้มเป็นการแพร่เชื้อสายพันธุ์ H7N9 ระหว่างคนกับคน แต่ก็สำทับว่า ไม่ควรตื่นตระหนกเนื่องจากความสามารถในการแพร่เชื้อของไวรัสสายพันธุ์นี้มีจำกัดและไม่ยั่งยืน
