เอเอฟพี – สหภาพยุโรป (อียู) วานนี้ (16 ธ.ค.) ออกมาให้คำมั่นว่า จะให้ความช่วยเหลือแก่ทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ในระดับที่ “ไม่เคยมีมาก่อน” หากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายกันได้
ขณะชมเชยความพยายามของ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่สามารถทำให้อิสราเอล และปาเลสไตน์ สามารถกลับมาเจรจากันสันติภาพร่วมกันอีกครั้งได้ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของอียู กล่าวว่า สหภาพยุโรปซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 28 ชาติ จะร่วมส่วนสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการดำเนินการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยุติความขัดแย้งกันได้แล้ว เพื่อทำให้ข้อตกลงสันติภาพมีความยั่งยืน
คำแถลงของบรรดารัฐมนตรีอียูซึ่งไปประชุมกันที่กรุงบรัสเซลส์ระบุว่า “อียูจะให้สนับสนุนเป็นแพกเกจใหญ่อย่างชนิดไม่เคยมีมาก่อน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงแก่ทั้งสองฝ่าย ตามบริบทของข้อตกลงที่ทำกันในขั้นสุดท้าย”
“ในกรณีที่บรรลุข้อตกลงสถานะสุดท้ายได้แล้ว สหภาพยุโรปจะมอบสถานะความเป็นหุ้นส่วนแบบอภิสิทธิ์พิเศษให้แก่ทั้งอิสราเอล และแก่รัฐปาเลสไตน์ที่จะก่อตั้งขึ้นในอนาคต เป็นต้นว่า ช่องทางเข้าสู่ตลาดยุโรปที่เพิ่มขึ้น สายสัมสัมพันธ์ด้านวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจกับภาคธุรกิจ”
นอกจากนี้ คำแถลงระบุเพิ่มเติมว่า อียูยัง “พร้อมที่จะเสนอให้จัดการสนทนาด้านการเมือง และมีการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย”
ทางด้าน กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ รู้สึกยินดีกับคำประกาศของสหภาพยุโรป โดยระบุว่า ความช่วยเหลือเหล่านี้จะทำให้อนาคตของอิสราเอล และปาเลสไตน์ “ยิ่งสดใสมากขึ้นอีก”
มารี ฮาร์ฟ รองโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันระบุในคำแถลงว่า “รัฐมนตรีเคร์รี ได้บอกอย่างชัดเจนว่า การที่ทั้งชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์ เล็งเห็นผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากการเจรจาสันติภาพ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญขนาดไหน”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสของอียูผู้หนึ่งกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดคุยกันเรื่องขนาดปริมาณของผลประโยชน์ หลังจากที่หนังสือพิมพ์รายวัน “ฮาเรตซ์” ของอิสราเอลรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การให้ความช่วยเหลือเหล่านี้จะมีมูลค่า “หลายพันล้านยูโร” และยังจะช่วยให้อิสราเอลไม่ต้องถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป
เคร์รี แถลงว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ แต่จะไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด