เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลอนดอนลงแรงวานนี้ (12) คาดเชื้อเพลิงลิเบียจะกลับสู่ตลาดอีกครั้ง ก่อความกังวลทางอุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทก็ดิ่ง วิตกเฟดอาจลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้หลังข้อมูลค้าปลีกดีเกินคาด ขณะที่ปัจจัยนี้ก็ฉุดให้ทองคำทรุดลงกว่า 32 ดอลลาร์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 6 เซ็นต์ ปิดที่ 97.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในส่วนของตลาดสหรัฐฯ ไม่มีข่าวใหม่ๆ มาขับเคลื่อนราคาน้ำมัน หลังจากลดลงแรงเมื่อวันพุธ (11) จากข้อมูลคลังเบนซินสำรองของอเมริกาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่เบรนท์ปิดลบแรง หลังคาดหมายว่าคลังน้ำมันของลิเบียจะกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งเร็วๆ นี้ หลังถูกกลุ่มผู้ประท้วงติดอาวุธปิดกั้นมานานหลายเดือน โดยลิเบียถือเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบเบามายังโรงกลั่นต่างๆ ในยุโรปรายสำคัญ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (11) ปิดลบพอสมควร หลังตัวเลขค้าปลีกที่ดีเกินคาด ก่อความคาดหมายว่าธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) จะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 102.94 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,739.43 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.62 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,775.60 จุด แนสแดค ลดลง 5.41 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,998.40 จุด
นักวิเคราะห์บอกว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการปรับลดของวอลล์สตรีท คือรายงานตัวเลขค้าปลีกเดือนพฤศจิกายน ที่พบว่าขยายตัวร้อยละ 0.7 เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ ซึ่งข้อมูลนี้เองที่กระพือข่าวลือว่าเฟดอาจลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ลง ระหว่างการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายในวันพุธหน้า
ปัจจัยนี้เองที่ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (12) ปิดลบกว่า 30 ดอลลาร์ ถือเป็นการขยับลงวันเดียวคิดเป็นร้อยละ แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 32.30 ดอลลาร์ (2.6 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,224.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์