รบ.ไอร์แลนด์โดนสับเละ หลังกดดันพลเมืองตัวเองหางานทำต่างแดน เพราะขี้เกียจจ่ายเงินชดเชยว่างงาน

เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลสาธารณรัฐไอร์แลนด์ กำลังถูกวิจารณ์หนัก หลังดำเนินมาตรการกดดันพลเมืองแดนยักษ์เขียวให้ออกไปหางานทำในต่างแดน หวังลดทอนภาระของภาครัฐในการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ทางสังคมแก่ประชาชน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง

รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเอนดา เคนนี กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมือง และสังคมอย่างหนัก จากข้อกล่าวหาของกลุ่มเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมหลายกลุ่มที่ระบุว่า รัฐบาลของเขากำลังผลักดันให้ประชากรวัยแรงงานชาวไอริช ต้องอพยพออกไปหางานทำในต่างประเทศ หลังจากที่เศรษฐกิจของแดนยักษ์เขียวประสบปัญหาจากการล้มครืนของภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และเผชิญผลกระทบจากวิกฤตการเงินของกลุ่มประเทศยูโรโซน ที่ทำให้มีผู้ว่างงานที่ต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากทางการเป็นจำนวนมาก

กลุ่มเคลื่อนไหวด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชนหลายแห่งในไอร์แลนด์ กล่าวหาว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเอนดา เคนนี กำลังดำเนินการ “เนรเทศ” พลเมืองของตัวเองให้เดินทางไปหางานทำนอกประเทศ เพื่อที่รัฐจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ชดเชยการว่างงานให้แก่แรงงานเหล่านี้อีกต่อไป

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในแดนยักษ์เขียว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่มีเศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในสหภาพยุโรป (อียู) มีขึ้นหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลได้ส่งจดหมายไปถึงประชากรชาวไอริชที่ว่างงานอย่างน้อย 6,000 คนในเดือนที่ผ่านมา โดยเนื้อหาในจดหมายดังกล่าวระบุให้ผู้ที่ได้รับจดหมายเร่งมองหางานทำในต่างประเทศ

ด้านแหล่งข่าวซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ และอ้างว่า เขาได้รับจดหมายดังกล่าวจากรัฐบาลไอร์แลนด์เผยว่า ทางการเสนอให้เขาสมัครงานในตำแหน่งพนักงานขับรถบัสในประเทศมอลตาซึ่งมีค่าตอบแทน 250 ยูโร (ราว 11,025บาท) ต่อสัปดาห์

อย่างไรก็ดี โฆษกรัฐบาลไอร์แลนด์ออกมาแถลงที่กรุงดับลิน โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะผลักดันพลเมืองไอริชออกนอกประเทศแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า จดหมายเสนอตำแหน่งงานในต่างประเทศที่ถูกส่งไปยังผู้ว่างงานจำนวนกว่า 6,000 คนดังกล่าวนั้น เป็นการเสนอทางเลือกแก่บรรดาผู้ว่างงานเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ได้รับจดหมายมีสิทธิที่จะตอบรับตำแหน่งงานนั้นหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับ “ความสมัครใจ”

โฆษกรัฐบาลแดนยักษ์เขียวยังระบุว่า รัฐบาลจะไม่ตัดลดเงินช่วยเหลือทางสังคมใดๆ ต่อแรงงานชาวไอริชที่ไปทำงานในต่างแดน หลังมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลอาจสามารถประหยัดงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมไปได้มาก หากไม่ต้องจ่ายเงินช่วยเหลือประชากรที่ไม่มีงานทำ

รายงานข่าวระบุว่า ไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มานานกว่า 3 ปีนั้น ยังคงไม่หลุดพ้นจากวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ราว 1 ใน 4 ของประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ไม่มีงานทำ

ขณะที่ในปีที่แล้ว มีข้อมูลว่าประชากรชาวไอริชที่มีอายุระหว่าง 15-44 ปี จำนวนถึง 75,800 คน ได้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อแสวงหา “ชีวิตที่ดีกว่า” ในต่างแดน ขณะเดียวกัน จำนวนของเด็กยากจนในไอร์แลนด์ ล่าสุดได้เพิ่มขึ้นจาก 7.4 เปอร์เซ็นต์ เป็น 9.3 เปอร์เซ็นต์แล้ว จากการสำรวจครั้งล่าสุดของทางการ