เอเจนซีส์/เอพี - ตำรวจปราบจลาจลยูเครนยกกำลังบุกเข้าสำนักงานใหญ่ของ “ฟาเธอร์แลนด์” พรรคการเมืองฝ่ายค้านยูเครนในกรุงเคียฟ และยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของพรรคไปในวันจันทร์ (9) เหตุเพราะกลุ่มผู้ประท้วงชาวยูเครนยังคงรวมตัวประท้วงอยู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศต่อไป
ในที่อื่นตำรวจยูเครนได้เข้ารื้อทำลายเต้นท์ของผู้ประท้วงที่อยู่ใกล้กับตึกของยูรัฐบาลเครน โดยความตึงเครียดเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อกองตำรวจปราบจลาจลยูเครนได้เดินไปถนนสายต่างๆ ที่จะนำไปสู่ที่ตั้งของสถานที่ราชการยูเครนซึ่งผู้ประท้วงได้ปักหลักประท้วงกีดขวางการเข้าออกสถานที่เหล่านี้
โดยตำรวจยูเครนได้ให้เวลากับกลุ่มผู้ประท้วงจนถึงแค่วันนี้ (10) ในการย้ายออก ที่ผ่านมายังไม่มีรายงานการปะทะแต่อย่างใด
ทางด้านหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านยูเครน “ฟาเธอร์แลนด์” ได้กระตุ้นให้กลุ่มผู้ประท้วงปกป้องจัตุรัสเอกราช ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของการประท้วงในครั้งนี้ที่เกิดจากการที่ผู้ประท้วงไม่พอใจในรัฐบาลยูเครนไม่ยอมเข้าร่วมสหภาพยุโรป หรือ EU
โดย สตีฟ โรเซนเบิร์ก ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงเคียฟ รายงานว่า มีจำนวนกองกำลังตำรวจในกลางกรุงเคียฟเพิ่มมากขึ้นมากกว่าที่มีในวันอาทิตย์ (8) ที่มีผู้ประท้วงหลายแสนคนรวมตัวเดินเท้าตามท้องถนน ซึ่งถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของยูเครน
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช โดยไบเดนได้แสดงความกังวลในสถานการณ์ที่ตึงเครียดของประเทศ พร้อมยังกระตุ้นให้ยานูโควิชเปิดการเจรจากับฝ่ายค้าน
“รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่าไม่มีพื้นที่สำหรับความรุนแรงในสังคมประชาธิปไตย และความรุนแรงยังไม่สามารถมีความเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ” อ้างจากแถลงการณ์ของทำเนียบขาว
อ้างจากการรายงานของกระทรวงกิจการภายในยูเครน พบว่าตำรวจปราบจราจลยูเครนสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากถนน 2 สายที่พวกเขาได้ปิดเส้นทางเข้าออกที่ทำการของราชการ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแถลงจากกระทรวงกิจการภายในยูเครนว่า ได้มีการใช้กำลังตำรวจเข้าผลักดันที่จัตุรัสเอกราช
ซึ่งในขณะนี้ทางกลุ่มม็อบยูเครนได้เพิ่มแบริเออร์มากขึ้นเพื่อปกป้องจัตุรัสเอกราช อันเป็นหัวใจของการประท้วงแห่งนี้
ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ประท้วงได้สร้างสิ่งกีดขวางรอบตึกรัฐบาลด้วยรถยนต์ แบริเออร์และเต็นท์ของผู้ชุมนุม
ในขณะที่โฆษกของพรรคฝ่ายค้านยูเครน “ฟาเธอร์แลนด์” แถลงว่า ทางตำรวจปราบจราจลได้พังประตู และบุกเข้ามาในสำนักงานใหญ่ของพรรคในวันจันทร์ (9) และทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของพรรคไป เป็นผลทำให้เว็บไซต์ของพรรคในขณะนี้ใช้งานไม่ได้
อย่างไรก็ตาม โฆษกตำรวจยูเครนกลับปฏิเสธในปฎิบัติการจู่โจมครั้งนี้ว่า ตำรวจท้องถิ่นประจำกรุงเคียฟหรือตำรวจปราบจราจล Berkut ของยูเครนไม่เคยออกปฏิบัติการนี้
แต่สื่อท้องถิ่นของยูเครนรายงานว่า หน่วยที่บุกเข้าสำนักงานใหญ่ของพรรคฟาเธอร์แลนด์นั้นมาจากหน่วย SBU ซึ่งถือเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐ แต่ทางหน่วยงานนี้ไม่ได้ให้ความเห็นใดออกมาหลังจากการรายงานของสื่อออกมา
พรรคฟาเธอร์แลนด์ เป็นพรรคของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของยูเครน ยูเลีย ทิโมเชนโก ที่ถูกจำคุกตั้งแต่ปี 2011 ในข้อหาที่อื้อฉาวในการทำสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้มีการปล่อยทิโมเชนโกเป็นอิสระ
ด้านยานูโควิชได้เปิดเผยว่า เขาจะเข้าหารือเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองครั้งนี้กับอดีตประธานาธิบดียูเครน 3 คน ในวันนี้ (10) เพื่อหาทางประนีประนอม ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงได้ให้เวลายานูโควิช 48 ชม.ในการลาออก และจัดการเลือกตั้งทั่วไปใหม่