เอเอฟพี – ชัค เฮเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางเยือนปากีสถานในวันนี้ (9 ธ.ค.) เพื่อหารือกัน ในขณะที่วอชิงตันพยายามบรรเทาความขัดแย้ง ในกรณีที่สหรัฐฯ ใช้อากาศยานไร้นักบิน (โดรน) เข้าโจมตีในปากีสถานจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ นอกจากนั้นเรื่องบทบาทของปากีสถานในอัฟกานิสถานก็จะเป็นประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่จะหยิบยกมาพูดจากัน
ในการเยือนปากีสถานครั้งแรกของรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกันในรอบเกือบ 4 ปี เฮเกลจะบินจากกรุงคาบูลไปยังกรุงอิสลามาบัดเพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ แห่งปากีสถาน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ รวมถึงผู้บัญชาการกองทัพบกคนใหม่ของอิสลามาบัด
สายสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับปากีสถานกำลังตึงเครียดเข้าขั้นรุนแรง เนื่องจากสหรัฐฯ ส่งโดรนเข้าจู่โจมในพื้นที่ของชนเผ่าในปากีสถาน และตามแหล่งกบดานของพวกตอลิบานอัฟกานิสถาน ซึ่งอยู่ภายในพรมแดนปากีสถาน
การเดินทางเยือนครั้งนี้ได้ประกาศออกมา ในขณะที่พวกผู้ช่วยของเฮเกลกล่าวว่า จะเดินหน้าลำเลียงขนส่งยุทโธปกรณ์ต่างๆ ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกจากอัฟกานิสถาน ผ่านทางปากีสถานอีกครั้ง หลังการประท้วงต่อต้านการใช้โดรนยุติลงแล้ว
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดานักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านการใช้โดรนจู่โจมได้บุกเข้าตรวจค้นคาราวานรถบรรทุกทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ในการรณรงค์เพื่อมุ่งขัดขวางเส้นทางที่กองกำลังนาโตใช้ลำเลียงขนส่งสิ่งของทั้งขาเข้า และขาออกจากอัฟกานิสถาน
กลุ่มผู้ประท้วงที่มีไม้กระบองเป็นอาวุธ ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องยุติการลำเลียงขนส่ง เพื่อความปลอดภัยของพวกคนขับรถบรรทุกที่ทำหน้าที่ขนส่งยุทโธปกรณ์ให้กองกำลังนาโต
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ คนหนึ่งกล่าวกับนักข่าวในกรุงคาบูลว่า คำสั่งชะลอการลำเลียงขนส่งผ่านปากีสถานชั่วคราว ได้ถูกยกเลิกแล้ว เนื่องจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวยุติการประท้วง ทำให้รถบรรทุกของนาโตสามารถเคลื่อนผ่านช่องตอร์คามได้เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ช่องทางดังกล่าวเป็นเส้นทางบกสายสำคัญที่เจ้าหน้าที่อเมริกัน และกองกำลังนาโตใช้ขนยุทโธปกรณ์น้ำหนักหลายตันออกจากอัฟกานิสถาน ในแผนการถอนกำลังครั้งใหญ่ที่มีกำหนดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2014
ทางด้าน ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวปกป้องการใช้โดรนจู่โจมว่า เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และถูกกฎหมาย อีกทั้งใช้อย่างมีขอบเขต โดยพุ่งเป้าเล่นงานผู้ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งน่าจะเป็นพวกอัลกออิดะห์ แต่บรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และนักการเมืองปากีสถานต่างชี้ว่า การโจมตีด้วยจรวดซึ่งยิงออกจากโดรนได้คร่าชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และจะต้องยุติการกระทำเช่นนี้
ในกำหนดการเยือนกรุงอิสลามาบัดเป็นเวลาสั้นๆ ครั้งนี้ คาดหมายกันว่าเฮเกลจะได้พบกับ พลเอก ราฮีล ชารีฟ ผู้บัญชาการทหารบกของปากีสถาน ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อไม่นานนี้
โฆษกของเฮเกล กล่าวว่ารัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ คาดหวังที่จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รับผิดชอบกลาโหมฝ่ายปากีสถานเรื่อง “ผลประโยชน์ที่สหรัฐฯ และปากีสถานจะได้ร่วมกัน จากความมั่นคงในอัฟกานิสถาน
