เอเจนซีส์ – ฝนซึ่งตกหนักในระยะนี้ส่งผลให้หลายพื้นที่ในรัฐปะหังและตรังกานูทางภาคตะวันออกของมาเลเซีย เกิดอุทกภัย ล่าสุดทางการได้สั่งอพยพชาวบ้านราว 19,000 คน และพบวัยรุ่นสังเวยชีวิตให้กับน้ำแล้วอย่างน้อย 1 ราย เจ้าหน้าที่มาเลเซียรายงานวันนี้ (4)
สื่อแดนเสือเหลืองรายงานว่า ประชาชนราว 19,000 คน ต้องเก็บข้าวของไปอาศัยอยู่ตามโรงเรียนซึ่งถูกแปลงเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวในรัฐปะหัง, ตรังกานู รวมถึงที่รัฐยะโฮร์ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ
สำหรับผู้เสียชีวิต 1 รายนั้นเป็นเด็กชายวัย 17 ปี ซึ่งออกไปตกปลากับพ่อในรัฐตรังกานู และถูกกระแสน้ำในแม่น้ำที่เชี่ยวกรากพัดจมหายไป ตำรวจในรัฐดังกล่าวเผย
เจ้าหน้าที่สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ระดับน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในระยะนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง และมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนต่างๆ แต่คาดว่าปริมาณฝนจะเริ่มลดลง
“วันนี้จะยังมีฝนตกอยู่ แต่เราคาดว่าฝนจะลดลงตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป... จากนั้นสถานการณ์น่าจะดีขึ้น” เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
สำนักอุตุนิยมวิทยามาเลเซียได้ออกประกาศเตือนภัยระดับสีส้มในรัฐปะหังและตรังกานูตั้งแต่วันจันทร์ (2) โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมเก็บข้าวของที่จำเป็น เพื่อสามารถอพยพได้ทันที
อุทกภัยซึ่งเกิดจากลมมรสุมประจำปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาสำหรับประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้