เอเอฟพี – ชาวเม็กซิโกราว 40,000 คนซึ่งประกอบด้วยครู, สหภาพแรงงาน และนักเคลื่อนไหวผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตย ออกมาเดินขบวนต่อต้านการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจน้ำมันในกรุงเม็กซิโกซิตี เมื่อวานนี้(1) ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลของประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนญา เนียโต แห่งเม็กซิโกบริหารประเทศครบรอบ 1 ปีพอดี
แกนนำการประท้วงในครั้งนี้คือ อันเดรส โลเปซ โอบราดอร์ จากพรรคปฏิวัติประชาธิปไตย ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งของ เปนญา เนียโต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเม็กซิโกเมื่อปีที่แล้ว
โลเปซ แถลงต่อผู้ชุมนุมว่า “เรามาในวันนี้เพื่อป้องกันการปล้นชาติครั้งใหญ่”
ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งถือป้ายข้อความขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “ไม่ขายเพเม็กซ์” ซึ่งหมายถึงบริษัทน้ำมันซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งถือป้ายภาษาอังกฤษเรียกร้องให้พรรคของประธานาธิบดี “ขายตัวเองไปสิ เพราะมันเป็นตัวของคุณ แต่น้ำมันเป็นของเรา”
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำในวันที่ 1 ธันวาคม ปี 2012 เปนญา เนียโต ก็มุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจเม็กซิโกให้เติบโต โดยสัญญาว่าจะปฏิรูปโครงสร้างหลายด้าน และยังทำ “ข้อตกลงเม็กซิโก” กับบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านหลักๆ
เปนญา เนียโต ระบุว่า รัฐบาลของเขา “ถือว่าการปฏิรูปบ้านเมืองคือสิ่งสำคัญอันดับแรก” และสัญญาว่าจะทำให้เศรษฐกิจของแดนจังโก้เติบโต
อย่างไรก็ดี แผนปฏิรูปของรัฐบาลกลับถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ พรรคปฏิวัติประชาธิปไตยของ โลเปซ โอบราดอร์ ประกาศจะถอนตัวจากข้อตกลงเม็กซิโก หากรัฐบาลไม่ยอมแก้ไขแผนปฏิรูปพลังงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นเพเม็กซ์เพื่อนำเงินทุนมหาศาลมาใช้ในการขุดเจาะน้ำมันระดับลึกมากใต้อ่าวเม็กซิโก
เพเม็กซ์ สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาลเม็กซิโกมากถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม กำลังผลิตเริ่มลดลงเรื่อยๆ จากระดับ 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2004 เหลือเพียง 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว