เอเอฟพี - สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) สอดแนมพฤติกรรมการเสพสื่อลามกของกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงเพื่อที่จะ “ดิสเครดิต” พวกเขา หนังสือพิมพ์ ฮัฟฟิงตันโพสต์ รายงานเมื่อวานนี้ (27) โดยอ้างข้อมูลจากเอกสารลับที่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน นำมาเปิดโปง
เอ็นเอสเอ ซึ่งเคยสอดแนมทั้งพลเมืองและรัฐบาลต่างชาติจนตกเป็นข่าวอื้อฉาว กำลังเสาะหาวิธีที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของแกนนำอิสลามิสต์ที่เชื้อเชิญให้มุสลิมหันมาก่อเหตุรุนแรง โดยจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าคนเหล่านี้ “ตีสองหน้า”
“จากการวิเคราะห์ SIGINT (สัญญาณข่าวกรอง) เกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกหัวรุนแรง พบว่าบุคคลเหล่านี้จะสูญเสียอำนาจสั่งการ หากพฤติกรรมในที่ลับและที่แจ้งของพวกเขาขัดแย้งกัน” เอกสารของเอ็นเอสเอระบุ โดยมีการอ้างถึงมุสลิมหัวรุนแรง 6 คนที่ตกเป็นเป้าหมายสอดแนมของสหรัฐฯ
“จุดอ่อนบางอย่างของพวกเขา หากถูกเปิดโปงก็จะทำให้สมาชิกในกลุ่มตั้งข้อสงสัยว่าพวกเขาทุ่มเทให้กับการต่อสู้เพื่อศาสนา (ญิฮาด) จริงหรือไม่ และอาจจะทำพวกเขาสูญเสียอำนาจสั่งการในที่สุด”
ตัวอย่างหนึ่งของหลักฐานที่จะทำลายความน่าเชื่อถือได้ก็คือ เมื่อสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ “แอบดูสื่อลามกออนไลน์ หรือใช้ภาษาหยาบโลนเกี้ยวพาราสีหญิงสาวที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องเซ็กซ์มาก่อน”
รายงานชิ้นนี้ระบุว่า บุคคลทั้ง 6 คนที่ตกเป็นเป้าสอดแนมของเอ็นเอสเอเป็นมุสลิมหัวรุนแรงที่ใช้คำพูดยุยงสร้างความเกลียดชัง แต่เอกสารไม่ได้ชี้ชัดว่า พวกเขาเคยเกี่ยวเนื่องกับแผนก่อการร้ายใดๆ หรือไม่
ฮัฟฟิงตันโพสต์ ไม่ได้เปิดเผยชื่อและที่อยู่ของเหยื่อสอดแนมทั้ง 6 แต่ระบุว่าพวกเขาอาศัยอยู่นอกแผ่นดินสหรัฐฯ และมีอยู่คนหนึ่งที่เป็น “ชาวสหรัฐฯ” ซึ่งก็หมายความว่า เขาอาจจะเป็นพลเมืองอเมริกัน หรือได้สถานะผู้อาศัยถาวร (permanent residence) ก็เป็นได้
เอ็นเอสเอ พบข้อมูลการสื่อสารเรื่องเพศอย่างชัดเจนในเหยื่อสอดแนม 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็น “นักวิชาการมุสลิม” ที่มีชื่อเสียง และมักส่งเสริมให้มุสลิมเชื่อว่า การทำญิฮาดเพื่อปกป้องศาสนาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เอ็นเอสเอสรุปว่า บุคคลผู้นี้ “มีจุดอ่อน” ที่จะดิสเครดิตได้ เนื่องจากมีพฤติกรรม “สำส่อนทางออนไลน์” และยังตีพิมพ์บทความต่างๆ “โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้องเสียก่อน”
อย่างไรก็ดี เอกสารไม่ได้ระบุว่าเอ็นเอสเอได้ดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของบุคคลผู้นี้แล้วหรือไม่
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ไม่ปฏิเสธหรือยอมรับรายงานที่ฮัฟฟิงตันโพสต์ นำเสนอ แต่ ชอว์น เทอร์เนอร์ โฆษกประจำตัวผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ชี้ว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากรัฐบาลสหรัฐฯจะใช้ทุกช่องทางที่มีอยู่เพื่อขัดขวางการทำงานของกลุ่มอิสลามิสต์ ซึ่งหวังทำลายประเทศชาติของเรา และชักจูงบุคคลอื่นไปสู่แนวคิดรุนแรง”
กลยุทธ์ที่ว่านี้คล้ายคลึงกับที่เอฟบีไอ, เอ็นเอสเอ และหน่วยข่าวกรองอื่นๆ ของสหรัฐฯเคยใช้ทำลายชื่อเสียงของนักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในอดีต ไม่ว่าจะเป็นมาร์ติน ลูเธอร์ คิง, นักต่อต้านสงคราม หรือพวกผู้นำสหภาพแรงงาน