เอเจนซีส์ - สื่ออังกฤษ เช่น เดอะการ์เดียน รายงานว่า ในวันอังคาร (26) ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน ได้ประกาศชุดมาตรการล่าสุดที่จะจำกัดการที่คนงานจากประเทศสมาชิกอียูสามารถใช้สวัสดิการณ์อังกฤษ โดยเฉพาะห้ามไม่ให้ขอรับสวัสดิการเคหะสำหรับผู้ที่เข้ามาใหม่ และมีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนก่อนขอสวัสดิการเงินช่วยเหลือว่างงาน หลังจากที่อังกฤษมีปัญหาหนักในการไหลเข้ามาไม่หยุดของคนงานไร้ฝีมือจากบัลแกเรียและโรมาเนีย และการที่กฎควบคุมจำนวนการอพยพของทั้ง 2 ประเทศจะถูกยกเลิกในต้นปี 2014
เมื่อวานนี้ (26) นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ได้เปิดเผยถึงชุดมาตรการจำกัดให้คนงานจากประเทศกลุ่มสมาชิกอียูสามารถขอรับสวัสดิการสังคมอังกฤษ หลังจากที่อังกฤษมีปัญหาหนักในการที่คนงานไร้ฝีมือจากบัลแกเรียและโรมาเนีย อพยพเข้ามาทำงานในอังกฤษไม่ขาดสาย โดยเขากล่าวว่า รู้สึกเป็นกังวลต่อปัญหาการอพยพเข้าเมืองของชาวบัลกาเรียละชาวโรมาเนีย เหตุเพราะการควบคุมจำนวนคนงานชาวโรมาเนียและชาวบัลแกเรียที่จะเข้ามาทำงานในอังกฤษจะสิ้นสุดลงภายในสิ้นปี 2013 ซึ่งเป็นผลมาจากการเรียกร้องของอียูในนโยบาย “เคลื่อนย้ายเสรี” สำหรับประชาชนในประเทศสมาชิกองค์การค้าสหภาพยุโรป
โดยคาเมรอนได้กล่าวโทษรัฐบาลพรรคแรงงานของอังกฤษในชุดที่ผ่านมาว่า ได้แก้ปัญหาผิดพลาดมาก โดยมาตรการควบคุมการเข้าประเทศของ 2 ชาตินี้เกิดขึ้นตั้งแต่โรมาเนียและบัลแกเรียเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูเมื่อปี 2007
และพบว่า ชุดมาตรการที่ถูกประกาศออกมาล่าสุดนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีผลโพลออกมาพบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่สนับสนุนให้รัฐบาลออกกฎห้ามชาวบัลแกเรียและชาวโรมาเนียเข้ารับทำงานในอังกฤษ และชุดมาตรการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคลิเบอรัล เดโมแครต
และนอกจากนี้ เดวิด คาเมรอน ยังได้แนะนำให้รัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษหลังปี 2015 ควรที่จะกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อจำกัดตัวเลขของผู้อพยพจากกลุ่มประเทศสมาชิกอียูทั้งในปัจจุบันรวมถึงในอนาคตที่จะเดินทางเข้ามายังอังกฤษ
ที่ผ่านมาได้มีการเตือนถึง “การไหลเข้าไม่หยุด” ของคนงานไร้ฝีมือจากทั้งโรมาเนียและบัลแกเรีย และได้มีการเรียกร้องให้รัฐสภาอังกฤษออกกฏหมายเพื่อป้องกันคนงานต่างชาติจะใช้ประโยชน์จากสวัสดิการสังคมและระบบสาธารณสุขอังกฤษ
และชุดมาตรการที่ออกมานี้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายการเข้าเมืองใหม่ที่บังคับให้พลเมืองจากประเทศสมาชิกอียูต้องจ่ายเงินเพื่อรับการรักษาพยาบาลในระบบสาธารณะสุขของอังกฤษ (NHS)
ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไฟแนนเชียลไทม์ คาเมรอนได้กล่าวหารัฐบาลบาลแรงงานอังกฤษชุดก่อนหน้าว่า ได้ทำ “ผิดพลาดอย่างมหันต์” ที่ไม่ออกมาตรการจำกัดการเข้าสู่ตลาดแรงงานอังกฤษ เมื่อโปแลนด์และอีก 9 ประเทศได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในปี 2004 และเป็นผลให้มีการอพยพเข้าเมืองเป็นจำนวนมากกว่าที่คิดกันไว้
โดยคาเมรอนยืนยันว่ามาตรการที่ออกมานี้เกิดมาจากสิ่งที่สังคมอังกฤษได้วิตกถึงปัญหาการไหลเข้ามาไม่หยุดของชาวยุโรปตะวันออกที่มีผลต่อเศรษฐกิจในประเทศและการให้บริการสาธารณะในอังกฤษ
***ชุดมาตรการที่ออกมาใหม่มีดังนี้***
*ผู้อพยพกลุ่มประเทศสมาชิกอียูจะไม่สามารถอ้างรับสิทธิประโยชน์การออกจากงานใน 3 เดือนแรก และสำหรับผู้อพยพเข้ามาอยู่ใหม่จะไม่สามารถขอรับสวัสดิการเคหะได้
*สวัสดิการว่างงาน (JSA) จะหยุดจ่ายหลังจาก 6 เดือนผ่านไป ยกเว้นผู้อพยพกลุ่มประเทศสมาชิกอียูจะแสดงให้เห็นว่ามีโอกาสที่แท้จริงที่สามารถจะได้งานทำ
*การทดสอบ “ habitual residency test” เพื่อขอรับสวัสดิการจะได้รับการปรับปรุงให้ยากขึ้น
*จะต้องมีการกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้อพยพประเทศสมาชิกก่อนที่พวกเขาสามารถขอรับสวัสดิการช่วยเหลือได้
*หากผู้อพยพกลุ่มประเทศสมาชิกอียูนั้นอยู่แบบเร่ร่อน หรือขอทาน พวกเขาจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ และห้ามกลับเข้าประเทศเป็นเวลา 12 เดือน จนกว่าจะสามารถมีเหตุผลที่ดีพอในการเข้าประเทศ เช่น มีงานทำ
*ปรับนายจ้างชาวอังกฤษเพิ่มเป็น 4 เท่าถึง 20,000ปอนด์ หากฝ่าฝืนไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนตามค่าแรงขั้นต่ำที่ได้กำหนดไว้
โดยคาเมรอนกล่าวย้ำกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า “ชุดมาตรการที่ออกมานี้เพื่อป้องกันให้ใครก็ตามที่เดินทางเข้าอังกฤษสามารถที่จะขอสวัสดิการว่างงานได้ทันนี” และเขามั่นใจว่าจะไม่ขัดกับกฎหมายของอียู
และคาเมรอนกล่าวต่อไปอีกว่า ปัญหานี้จะหนักมากขึ้นทุกวัน เหตุเพราะประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยโดยรวมต่ำกว่าที่กำหนดปรารถนาที่จะเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปมากขึ้น และเขาย้ำว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่คนตระหนักว่า “นโยบายการเคลื่อนย้ายเสรี” ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของอียูในการมีตลาดเดียวนั้นได้กลายเป็นการจุดชนวนให้เกิดปัญหา “การเคลื่อนย้ายประชากรครั้งใหญ่” และมันต้องได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสม
หน่วยงาน MigrationWatchของอังกฤษ เปิดเผยว่า คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนชาวบัลแกเรียและชาวโรมาเนียร่วม 50,000 คน เดินทางเข้ามาหางานทำในอังกฤษในแต่ละปี แต่ทางเอกอัคราชทูตบัลแกเรียโต้ว่า ตัวเลขอพยพเข้าจะต่ำมากกว่านั้น โดยคาดว่าจะมีราว 8,000 คนเท่านั้น
จากสถิติของทางการอังกฤษ พบว่ามีจำนวนผู้อพยพจากประเทศสมาชิกอียูได้ขอรับสวัสดิการว่างงานในอังกฤษประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2013 มากถึง 60,100 คน