เอเจนซีส์ - สื่ออเมริกัน เช่น วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า สำนักงานนายอำเภอเฟรเดอริกเคาน์ตี แถลงเมื่อวานนี้ (25) ถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมสังหารโหดในรัฐแมรีแลนด์ วันพุธ (20) ที่ผ่านมา Benyam Asefa วัย 40 ปี นักวิทยาภูมิคุ้มกันชาวอเมริกันที่เพิ่งถูกเลิกจ้างจากสถาบัน Lovelace Respiratory Research Institute ได้มีปากเสียงและลั่นกระสุนใส่ภรรยา Barbara Giomarelliวัย 42 ปี ในขณะที่เธออุ้มลูกชายวัย 3 เดือน และหลังจากนั้นเขาได้ปลิดชีพตนเอง โดยมีลูกสาว วัย 5 ขวบวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านในภายหลัง โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงเหตุแรงจูงใจในการสังหารครั้งนี้
สำนักงานนายอำเภอเฟรเดอริกเคาน์ตีแถลงเมื่อวานนี้ (25) ถึงรายละเอียดเหตุการณ์สังหารโหดที่เกิดขึ้นในเฟรเดอริกเคาน์ตี รัฐแมรีแลนด์ เทื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พบครอบครัวนักวิทยาภูมิคุ้มกันชาวอเมริกันเสียชีวิตยกครอบครัวคาบ้าน ในขณะที่ลูกสาววัย 5 ขวบที่รอดชีวิตได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านในภายหลังว่า Benyam Asefa วัย 40 ปี นักวิทยาภูมิคุ้มกันชาวอเมริกันที่เพิ่งถูกเลิกจ้างจากสถาบัน Lovelace Respiratory Research Institute เมื่อปลายเดือนกันยายนที่เพิ่งผ่านมาเนื่องจากทางหน่วยงานการลดรายจ่าย ได้ลั่นไกสังหารภรรยา Barbara Giomarelli ชาวอิตาเลียนวัย 42 ปี อดีตนักวิจัยประจำสถาบันการศึกษาทางทะเลและเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ออกจากงานไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ต้นปีที่ผ่านมา และกำลังจะได้เริ่มงานใหม่ในวันที่ 2 เดือนธันวาคมนี้แต่ไม่ทราบที่ไหน
ในคืนเกิดเหตุของวันที่ 20 พฤศจิกายน ช่วงระหว่าง 18.00 น.จนถึง 20.00 น. ในขณะที่ Giomarelli ได้เตรียมน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำสำหรับลูกสาววัย 5 ขวบในห้องอาบน้ำพร้อมลูกสาวอยู่ Asefa ได้เดินเข้ามาแล้วทั้งคู่เริ่มเถียงกัน ซึ่งไม่มีผู้ใดทราบถึงปัญหาขัดแย้งของทั้งคู่ในครั้งนี้ ซึ่งเพื่อนของฝ่ายภรรยาได้รับอีเมลเมื่อเวลาราว 18.00 น.ว่ามีปากเสียงกับสามีตามปกติ
และหลังจากนั้นคนทั้งคู่ได้เดินลงไปชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นที่ Asefa ได้ใช้ปืนพกลั่นกระสุนเจาะกะโหลกด้านขวาของ Giomarelli ในขณะที่เธอกำลังกล่อมลูกชายวัย 3 เดือนอยู่บนตักในห้องครัว และสำนักงานนายอำเภอเฟรเดอริกเคาน์ตียืนยันว่าวิถีกระสุนนัดนี้ได้เจาะเข้าไปที่กะโหลกของทารกน้อยและทะลุผ่านไปติดที่ผนัง และหลังจากนั้น Asefa ได้ลั่นไกปลิดชีพตนเองลงที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน
และหลังจากนั้นบุตรสาววัย 5 ขวบที่ยังอยู่ในห้องอาบน้ำชั้นบนของบ้านได้แต่งตัวและเดินลงมา สำนักงานนายอำเภอเฟรเดอริก เคาน์ตีเผยต่อ เธอได้พบภาพการเสียชีวิตของครอบครัวที่อยู่ชั้นล่างแต่หนูน้อยเข้าใจผิดว่าครอบครัวของเธอได้รับบาดเจ็บ เธอจึงเดินตรงไปที่บ้านติดกันพร้อมกับขอความช่วยเหลือ โดยเธอบอกกับเพื่อนบ้านว่า ครอบครัวของหนูน้อยได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในบ้าน เพื่อนบ้านจึงแจ้งตำรวจในเวลา 20.15 น. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเด็กน้อยวัย 5 ขวบที่เหลือรอดชีวิตนี้ “ไม่มีส่วนรับรู้ถึงเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุในชั้นล่างในระหว่างที่เธอยังอยู่ในห้องอาบน้ำ” โดยในขณะนี้เด็กหญิงอยู่ในความดูแลของครอบครัวของเพื่อนบิดามารดาของเธอหลังจากที่เธอได้รับการดูแลจากหน่วยคุ้มครองเด็กของท้องถิ่นหลังเกิดเหตุ
จากการสอบสวนพบว่า ครอบครัวนี้มีปัญหาการทำร้ายร่างกายแต่ไม่มีเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจของ Asefa ในการก่อเหตุครั้งนี้
