เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จีนประกาศกำหนดเขตป้องกันภัยทางอากาศเหนือน่านน้ำบริเวณ “ทะเลจีนตะวันออก” (East China Sea) ในวันเสาร์ (23) โดยระบุจีนมีสิทธิ์ดำเนิน “มาตรการฉุกเฉินด้านการป้องกัน” ซึ่งครอบคลุมถึงการยิงเครื่องบินทุกลำที่จีนระบุว่า รุกล้ำอธิปไตยของตน
หยาง หยาจุน โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งในวันเสาร์ (23) โดยระบุว่า จีนขอประกาศจัดตั้งเขตป้องกันภัยทางอากาศเหนือน่านน้ำบริเวณทะเลจีนตะวันออก โดยยืนยัน ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลปักกิ่งไม่มีจุดมุ่งหมายมุ่งไปที่ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ พร้อมย้ำว่าการประกาศกำหนดพื้นที่เขตป้องกันทางอากาศ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นยิ่งต่อการปกป้องอธิปไตยของจีน
โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนยืนยันด้วยว่า เที่ยวบินของสายการบินพาณิชย์ระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องทำการบินผ่านพื้นที่ดังกล่าวตามปกตินั้น จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น จากการที่จีนประกาศกำหนดเขตป้องกันภัยทางอากาศดังกล่าว แต่จีนพร้อมดำเนินมาตรการป้องกันฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งรวมถึงการ “ยิงเครื่องบิน” ที่จีนเห็นว่ารุกล้ำอธิปไตยของตน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นออกคำแถลงตอบโต้ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลแดนมังกร โดยระบุ มาตรการดังกล่าวของทางปักกิ่งต้องการพุ่งเป้ามายังญี่ปุ่น เนื่องจากเขตป้องกันทางอากาศดังกล่าวถูกกำหนดให้ครอบคลุมน่านฟ้าเหนือหมู่เกาะพิพาทเซงกากุ หรือเตี้ยวอี๋ว์ ที่ทั้งสองประเทศซึ่งได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียต่างอ้างกรรมสิทธิ์ด้วย
จุนอิจิ อิฮาระ ผู้อำนวยการใหญ่ด้านกิจการเอเชียและโอเชียเนียของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ขณะนี้ทางกระทรวงฯ ได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังสถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงโตเกียวแล้ว และย้ำว่ารัฐบาลญี่ปุ่นไม่อาจยอมรับได้ต่อการกำหนดเขตป้องกันทางอากาศของจีน เนื่องจากเป็นการแสดงเจตนาของทางปักกิ่งที่ต้องการแอบอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะเซงกากุที่เป็นดินแดนของญี่ปุ่น
ด้านเจนนิเฟอร์ ซากี โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเรียกร้องให้ทั้งจีนและญี่ปุ่นยึดมั่นในการสร้างบรรยากาศแห่งสันติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและใช้ช่องทางการทูตในการก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากในความสัมพันธ์ครั้งนี้