โสมแดง “กร้าว” จะเปลี่ยนทำเนียบโสมขาวเป็น “ทะเลเพลิง” หากถูกยั่วยุ

เอเอฟพี – เกาหลีเหนือวันนี้ (22 พ.ย.) ฉลองวาระครบรอบวันที่ตนระดมยิงเกาะของเกาหลีใต้ แห่งหนึ่งในบริเวณพรมแดนของทั้งสองประเทศ ด้วยการออกมาขู่จะเปลี่ยนทำเนียบประธานาธิบดีโสมขาวให้เป็น “ทะเลเพลิง”

คำขู่นี้มีขึ้นในเวลาที่กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และเหล่านาวิกโยธินของเกาหลีใต้เริ่มปฏิบัติการซ้อมรบอย่างเข้มข้นบนเกาะยอนเปียงแห่งนั้น และบริเวณรอบๆ ในวาระครบรอบเหตุการณ์ที่มีประชาชนถูกฆ่าตายไป 4 คนในเดือนพฤศจิกายนปี 2010

“เมื่อ 3 ปีก่อน ไฟแค้นครั้งแรกถูกจำกัดวงไว้เพียงเกาะยอนเปียง แต่ครั้งหน้าเราจะตั้งเป้าโจมตีทำเนียบน้ำเงิน (ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้) และสำนักงานใหญ่ต่างๆ ของระบอบปกครองหุ่นเชิด” กองทัพประชาชนเกาหลี ของโสมแดงระบุในคำแถลง

คำแถลงกล่าวด้วยว่า “หากเกาหลีใต้ยังขืนบุ่มบ่ามออกมายั่วยุเราอีกครั้ง ทะเลเพลิงที่เกาะยอนเปียง ก็จะกลายเป็นทะเลเพลิงที่ทำเนียบน้ำเงิน”

“พัค กึน-ฮเย และพรรคพวกจะต้องได้รับบทเรียนอันเจ็บปวด จากความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายของเกาหลีใต้” คำแถลงระบุ โดยเรียกชื่อของประธานาธิบดีเกาหลีใต้โดยไม่มีคำนำหน้า ซึ่งถือเป็นการไม่ให้เกียรติ

วันพรุ่งนี้ (23) คือวันครบรอบ 3 ปีพอดีที่เกาหลีเหนือได้ถล่มเกาะยอนเปียง ภายหลังที่ออกมากล่าวเตือน ไม่ให้เกาหลีใต้ซ้อมยิงโดยใช้ปืนจริง ในบริเวณที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นเขตน่านน้ำของตนเอง

เหตุจู่โจมครั้งนั้นได้คร่าชีวิตนาวิกโยธินเกาหลีใต้ไป 2 ราย และพลเรือนอีก 2 ราย ในการปะทะกันที่ชายแดนครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่สงครามเกาหลีในปี 1950 ถึง 1953

ประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่อาศัยบนเกาะแห่งนี้ พากันอพยพไปอยู่บนแผ่นดินใหญ่หลังเกิดเหตุโจมตี แต่ในเวลาต่อมา พวกเขาก็ไปอยู่บนเกาะตามเดิม

ในช่วงเวลา 3 ปีที่โสมแดงยังออกมาขู่คุกคามเรื่อยๆ นั้น เกาะแห่งนี้ได้สร้างป้อมปราการใหม่หลายแห่ง เพิ่มจำนวนทหารเป็น 3 เท่า และนำอาวุธใหม่ๆ ไปประจำการ เป็นต้นว่าขีปนาวุธ เรดาร์ต่อต้านอาวุธที่ยิงเข้ามา และเฮลิคอปเตอร์

ทั้งนี้ โสมแดงไม่ยอมรับแนวพรมแดนทางทะเลระหว่างสองเกาหลีหลายๆ บริเวณ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุนองเลือดในปี 1999, 2002 และ 2009 โดยอ้างว่าเส้นพรมแดนดังกล่าว กองกำลังของยูเอ็น ที่นำโดยสหรัฐฯ เป็นผู้กำหนดขึ้นแต่ฝ่ายเดียว หลังสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง

ในวันครบรอบเหตุการณ์เดียวกันนี้ เมื่อปีที่แล้ว กองทัพเกาหลีเหนือได้ขู่จะถล่มเกาะแห่งนี้ โดยกล่าวว่ารู้สึกเสียดายที่ตนไม่ได้จมเกาะนี้ และเสริมว่าจะไม่พลาดโอกาส หากยังมีพวกกระหายสงครามออกมายั่วยุอีกครั้ง