เอเอฟพี - ตำรวจตุรกีจับกุมตัวชายจิตไม่ปกติรายหนึ่ง หลังพกพาระเบิดปลอมอยู่บริเวณด้านนอกสำนักงานนายกรัฐมนตรีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดแกน เมื่อวันพฤหัสบดี (21) จนก่อความหวั่นวิตกด้านความปลอดภัยในเมืองและต้องปิดการสัญจรในพื้นที่โดยรอบ
เดิมทีสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าตำรวจได้ยิงผู้ต้องสงสัยจนได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันในเวลาต่อมาว่าเป็นแค่การปลุกปล้ำกัน ส่วนเสียงปืนก็เป็นเพียงการยิงขึ้นฟ้าเท่านั้น “ชายคนนี้ถือวัตถุคล้ายระเบิด แต่ความจริงคือมันเป็นของปลอม” มูอัมเมอร์ กูเลอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยแถลงกับผู้สื่อข่าว พร้อมชี้ว่าผู้ก่อเหตุมีอาการ “ไม่เสถียรทางจิต”
นายเออร์โดแกน ไม่ได้อยู่ในสำนักงานนายกรัฐมนตรีตอนที่เกิดเรื่อง โดยเวลานั้นไปปฏิบัติภารกิจที่ศูนย์อำนวยการพรรคยุติธรรมและพัฒนา (เอเคพี) ของเขา “หน่วยความมั่นคงกำลังสืบสวนว่าผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับกลุ่มนอกกฎหมายใดๆ หรือไม่” เออร์โกแกน บอกกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินอังการา ก่อนออกเดินทางเยือนรัสเซีย “ผลของการสืบสวนนี้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน”
รัฐมนตรีมหาดไทยบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรร้ายแรง แต่กระนั้นก็มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรอบๆ อาคารสำนักงานนายกรัฐมนตรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตคิซิเลย์ ใจกลางกรุงอังการา และพบเห็นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจลำหนึ่งบินวนอยู่เหนือศีรษะ
ตำรวจระบุว่าชายคนดังกล่าวมีชื่อว่านายทูกรูล บายีร์ วัย 52 ปี แต่ก็ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม ส่วนนายรามาซาน บัล หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่าผู้ต้องสงสัยถูกยิง “นี่ไม่ใช่ระเบิดฆ่าตัวตาย คุณจะได้เห็นชายซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆถูกนำตัวขึ้นศาลในวันพรุ่งนี้ (วันศุกร์)” เขากล่าว
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าผู้ต้องสงสัยสวมสายรัดรอบเอว ถือกล่องสีดำซึ่งมีสายไฟพันโดยรอบ “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิงปืนขึ้นฟ้า 5 หรือ 6 นัด พวกเขาไม่ได้ยิงผู้ต้องสงสัย” ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเสริมว่าเบื้องต้นตำรวจได้ขอให้ผู้ต้องสงสัยแสดงตัวตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้อาคาร แต่พอผู้ต้องสงสัยปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ก็พุ่งเข้าชาร์จและตะครุบตัวเขาเอาไว้
เออร์โดแกน ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตุรกีมานานกว่า 11 ปี กำลังมุ่งหน้าเยือนรัสเซีย ในโปรแกรมเยือนเป็นเวลา 2 วัน ด้วยคาดหมายว่าความขัดแย้งในซีเรียชาติเพื่อนบ้าน จะเป็นหัวข้อสำคัญในการเจรจาระหว่างเขากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน โดยตุรกี มีจุดยืนสนับสนุนฝ่ายต่อต้านดามัสกัส ขณะที่มอสโกคือพันธมิตรหลักของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
ที่ผ่านมา กบฏเคิร์ดหรือไม่ก็กลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้าย มักอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีตามเมืองต่างๆ ของตุรกี โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ได้เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีด้านนอกสถานทตสหรัฐฯ ในอังการา ทำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวตุรกีเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และต่อมากลุ่มแนวหน้าปลดปล่อยแห่งประชาชนปฏิวัติ (DHKP-C) อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง