เอเจนซีส์ - ศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐฯ หรือ National Weather Service (NWS) ได้รายงานว่า ในวันอาทิตย์ (17) ที่ผ่านมา พายุทอร์นาโดอย่างน้อย 10 ลูกได้เข้าถล่มแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ที่รวมไปถึงรัฐอิลลินอยส์ รัฐอินเดียนา และรัฐเคนตักกี คร่าชีวิตชาวอเมริกันอย่างน้อย 6 ราย มีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 37 ราย รวมไปถึงทำลายบ้านเรือนและรถรา และทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอยู่อย่างไม่มีไฟฟ้าใช้
National Weather Service (NWS) หรือศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐฯ ได้ประเมินว่า พายุทอร์นาโดอย่างน้อย 10 ลูกที่เข้าถล่มแถบมิดเวสต์ รวมถึงรัฐอิลลินอยส์ รัฐอินเดียนา และรัฐเคนตักกี เมื่อวานนี้ (17) นั้นได้ส่งผลกระทบถึงประชาชนอเมริกันอย่างน้อย 53 ล้านคนในสิบรัฐทั่วประเทศ และมีรายงานว่า มีคนพบก้อนลูกเห็บที่มีขนาดเท่ากับลูกเทนนิสตกอยู่ ซึ่งความเร็วลมของพายุครั้งนี้วัดได้ 111 กม./ชม. มุ่งหน้าเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก
ตามปกติของปฏิทินพายุทอร์นาโดในสหรัฐฯ แล้ว เดือนพฤศจิกายนถือเป็นเดือนที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งหมายความว่าการพัดเข้าถล่มของพายุทอร์นาโดหลายสิบลูกครั้งนี้ “ไม่ปกติอย่างแน่นอน” นิค ไบรแอนต์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำนิวยอร์กรายงาน
จากการเข้าถล่มของพายุเมื่อวานนี้ (17) มียอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 รายที่พบนั้นเกิดขึ้นใน “อิลินอยส์” รัฐภูมิลำเนาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา โดยชาวอเมริกันจำนวน 4 รายแรกที่เสียชีวิตนั้นได้รับรายงานจากหน่วยงานจัดการภัยพิบัติฉุกเนของรัฐอิลลินอยส์ และจำนวนผู้เสียชีวิตอีก 2 รายได้รับรายงานจากแผนกชันสูตรศพของวอชิงตันเคาน์ตี รวมไปถึงการประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ในเมืองบรู๊กพอร์ต รัฐอิลลินอยส์ และมีประชาชนในรัฐอิลลินอยส์อย่างน้อย 83,000 คนไม่มีไฟฟ้่าใช้ในวันอาทิตย์(17)
ในครั้งนี้รัฐอิลลินอยส์ถือว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยเฉพาะภาคกลางของรัฐ รวมไปถึงเพกิน และวอชิงตัน ทางด้านซารา สปาร์คแมน โฆษกของแผนกสาธารณสุขแห่งแทซซ์เวลล์เคาน์ตีได้เปิดเผยว่า “โชคร้ายที่พายุทอร์นาโดหอบเมืองทั้งเมืองหายไป แต่ยังโชคดีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ร้ายแรง” โดยโรงพยาบาลเซนต์ฟรานซิสเมดิคอลเซนเตอร์ที่ตั้งอยู่ใกล้เพกินได้เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยรักษาอาการบาดเจ็บในห้องฉุกเฉินอย่างน้อยราว 37 ราย
นอกจากนี้ เดฟ มิงกูซ นายกเทศมนตรีพิโอเรียตะวันออกซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองเพกิน รัฐอิลลินอยส์ กล่าวว่า บ้านเรือนจำนวน 100 หลัง ที่มีประชากรราว 23,000 คน ที่มีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 25-50 ปีนั้นถูกทำลายและทำให้พวกเขากลายเป็นคนไร้ที่อาศัย
และในวอชิงตันที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 15,000 ราย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบรุดไปที่เกิดเหตุท่ามกลางได้รับรายงานว่ามีชาวอเมริกันเป็นจำนวนมากติดอยู่ข้างในอาคาร ทางด้านสมาชิกสภาผู้แทนสหรัฐฯ พรรครีพับลิกันในเขตนี้ได้เปิดเผยว่า “เอาง่ายๆ เลย ที่อยู่อาศัยของเพื่อนบ้านถูกพายุทอร์นาโดกวาดออกไปเรียบ ผมหมายถึงบ้านเรือนจำนวน ถึง 20-30 หลังหายไปหมด วอชิงตันราบเรียบเป็นหน้ากลอง”
นอกจากนี้ แผนกการบินของเมืองชิคาโกได้ให้สัมภาษณ์ว่า สนามบินนานาชาติโอแฮร์และสนามบินนานาชาติชิคาโกมิดเวย์นั้นจะหยุดให้การบริการทุกชนิด ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีเครื่องบินขึ้นหรือลงจากสนามบินนานาชาติทั้งสองแห่งนี้
ทางด้านผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ แพท ควินน์ ได้กล่าวว่า “ให้เตรียมพร้อมกับการเตือนภัยภูมิอากาศ และหากไม่จำเป็นห้ามออกจากบ้านเป็นอันขาด” นอกจากนี้ การเตือนภัยทอร์นาโดนั้นได้มีขึ้นในบางส่วนของรัฐอินเดียนา รัฐเคนตักกี และรัฐโอไฮโอ
ด้าน NWS ได้เผยว่า นอกจากรัฐอิลลินอยส์แล้ว ยังมีทอร์นาโดอย่างน้อยอีก 4 ลูกถล่มรัฐอินเดียนา และจากการรายงานของบริษัทไฟฟ้า Duke Energy แสดงให้เห็นว่ามีชาวอินเดียนาไม่มีไฟฟ้าใช้จำนวนมากกว่า 37,000 คน และในด้านรัฐเคนตักกีมีหลายเมืองที่ได้รับเสียหายจากการพัดผ่านของทอร์นาโด ซึ่งทาง NWS ได้คาดการว่าทอร์นาโดนี้จะส่งผลร้ายในรัฐอิลลินอยส์ รัฐอินเดียนา รัฐมิชิแกน รัฐโอไฮโอ รัฐวิสคอนซิน รัฐไอโอวา และรัฐมิสซูรี ซึ่งคาดว่าพายุที่แรงนั้นรวมถึงสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนนั้นจะพัดผ่านทางภาคกลางของสหรัฐฯ ก่อนจะเคลื่อนไปยังรัฐทางแถบมิดแอตแลนติกและรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศต่อไป และจะส่งผลให้เกิดทอร์นาโดลูกใหม่ขึ้น รวมไปถึงลูกเห็บขนาดยักษ์ และลมกรรโชกแรงที่ทำลายบ้านเรือน