เกิดระเบิดฆ่าตัวตายใน “กรุงคาบูล” ใกล้กับสถานที่จัดประชุมสภาชนเผ่าตัดสิน “อนาคตกองทัพมะกัน”

เอเจนซีส์ - มีชาวอัฟกันจำนวนมากกว่า 20 คน ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คนในเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายในวันเสาร์ (16) ในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่จะจัดการประชุมสภาชนเผ่า (Loya Jirga) ในสัปดาห์นี้ เพื่อถกข้อตกลงด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯในการคงกองกำลังไว้ในอัฟกานิสถาน หลังจากกองกำลังผสมนานาชาติเสร็จสิ้นภารกิจภายในปลายปี 2014 โดยคาดว่ากลุ่มก่อการร้ายตอลิบานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนี้

ตัวแทนกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานได้เผยกับบีบีซี สื่ออังกฤษว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับสถานที่จะจัดประชุมสภาชนเผ่า (Loya Jirga) ขึ้นในสัปดาห์นี้เพื่อตัดสินอนาคตของกองทัพสหรัฐฯว่าจะยังคงมีบทบาทในประเทศนี้ต่อไปหรือไม่อย่างไรหลังจากสิ้นปี 2014

เหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวานนี้ (16) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นด้วย ในขณะที่มีผู้บาดเจ็บที่ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนจำนวนอย่างน้อย 20 ราย โดยทางตำรวจอัฟกันเผยว่า คนร้ายได้ขับรถโตโยต้าที่ขนระเบิดไว้เต็มคันรถพุ่งชนรถทหารของกองทัพอัฟกันในขณะที่เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่บนรถได้เปิดฉากยิงตอบโต้สกัด

ระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ไม่ห่างเกิน 100 ม.จากเต็นท์สถานที่จัดงานประชุมสภาชนเผ่าอัฟกันที่คาดกันว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 2,000 คนในวันพฤหัสบดี (21) เพื่อหารือในข้อตกลงทางความมั่นคงกับสหรัฐฯ ที่จะอนุญาตให้สหรัฐฯยังคงกองกำลังไว้ในประเทศนี้ได้ในจำนวนเท่าไร และในส่วนข้อตกลงที่จะอนุญาตให้ทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถานมีสิทธิ์ไม่ต้องขึ้นต่อศาลยุติธรรมอัฟกานิสถานหากกระทำผิด

ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการเกิดระเบิดขึ้น ประธานาธิบดีแห่งอัฟกานิสถาน ฮามิด คาร์ไซ ได้ให้สัมภาษณ์ เชิญชวนกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานเข้าร่วมการประชุมสภาชนเผ่านี้ “รัฐบาลอัฟกานิสถานขอเชิญกลุ่มตอลิบานเข้าร่วมการประชุม Loya Jirga นี้เพื่อให้ความเห็นของพวกท่านเป็นที่ได้ยิน เพื่อให้เสียงคัดค้านของท่านเป็นที่รับทราบ”

ในขณะนี้มีนายทหารสหรัฐฯจำนวน 5,000-10,000 นายประจำอยู่ในอัฟกานิสถาน แต่หลังจากปลายปี 2014 ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่กองกำลังชาติผสมองค์การนาโตจะถอนออกจากอัฟกานิสถานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสหรัฐฯมีเป้าหมายที่จะฝึกกองกำลังอัฟกานิสถานเพื่อให้สามารถต่อกรกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ได้แต่ก็ขึ้นกับว่าข้อตกลงระหว่างทางวอชิงตันและคาบูลจะออกมารูปใดหลังจากนี้