เอเอฟพี/บีบีซี - ทางการฟิลิปปินส์ปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเป็น 3,621 คนในวันศุกร์(15) แต่ต่ำกว่าที่ทางยูเอ็นนับได้ ตัวเลขอันสับสนที่ก่อการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างองค์กรโลกกับรัฐบาลมะนิลา ขณะเดียวกันนานาชาติก็เร่งระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เรย์นัลโด บาลิโด โฆษกสภาลดความเสี่ยงและบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ เผยว่ายอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้ เพิ่มขึ้นจาก 2,360 คน เป็น 3,621 คน ส่วนตัวเลขผู้สูญหายอยู่ที่ 1,140 ราย "นี่เป็นผลสรุปจากรายงานของLGUs(หน่วยต่างๆของรัฐบาลท้องถิ่น) ทาง LGUs ไม่รายงานในทันที เพราะจำเป็นต้องรายงานอย่างระมัดระวัง พวกเขาจำเป็นต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน" เขากล่าว "ปฏิบัติการเปิดถนนและเคลียร์ชุมชนต่างๆกำลังดำเนินไปด้วยดี และนั่นเองที่เราจะได้เห็นศพซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ซากหักพังเพิ่มเติม"
ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(15) มีความขัดแย้งกันอย่างมากในยอดผู้เสียชีวิตระหว่างหน่วยงานของทางการฟิลิปปินส์กับสหประชาชาติ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เผยว่าตำรวจยศนายพลนายหนึ่งซึ่งออกมาอ้างว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 10,000 คนถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว ความเคลื่อนไหวที่กัดเซาะความน่าเชื่อของรัฐบาลและประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ด้วยถูกกล่าวหาว่าพยายามกลบเกลื่อนขอบเขตของหายนะที่แท้จริง
ช่วงเช้าของวันศุกร์(15) สหประชาชาติอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่ายอดผู้เสียชีวิตในเหตุพายุรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งเท่าที่เคยบันทึกมา ซึ่งซัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่อย่างน้อย 4,460 นาย จนทาง บาลิโด ต้องออกมาปฏิเสธและบอกว่าตัวเลขที่ทางลดความเสี่ยงและบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ น้อยกว่านั้นมากอยู่ที่ 2,360 คน ก่อนจะปรับเพิ่มในเวลาต่อมา
ยอดผู้เสียชีวิตจากหายนะมหาไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนกลายเป็นความสับสนและโต้เถียงกันระหว่างสหประชาชาติและรัฐบาลฟิลิปินส์ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลังจาก จอห์น กิง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ คาดหมายว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 คน แต่ในวันต่อมา ประธานาธิบดีอากีโน ก็ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นตอบโต้ว่าเป็นตัวเลขที่สูงเกินจริงและยอดเหยื่อขั้นท้ายที่สุดน่าจะอยู่แค่ราวๆ 2,500 คนเท่านั้น
ท่ามกลางข้อถกเถียงเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิต ปฏิบัติการกู้ภัยและความช่วยเหลือจากนานาชาติก็ยังเดินหน้าอย่างไม่ย่อท้อ โดยเฮลิคอปเตอร์จากเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ได้ลำเลียงเสบียงไปยังเมืองกุยวาน แถบชายฝั่งแปซิฟิก ด่านแรกที่ต้องเผชิญกับอานุภาพของไต้ฝุ่นอย่างเต็มๆ ขณะเดียวกันเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน ก็เริ่มขยายขอบเขตปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย และจัดเตรียมฐานขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์เพื่อเคลื่อนย้ายเสบียง
แท่นวางบรรจุภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยอาหารและน้ำถูกลำเลียงลงจากเครื่องบินเพื่อส่งมอบต่อไปยังกุยวานและตาโกลบาน เมืองหลวงของจังหวัดเลย์เต ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก อย่างไรก็ตามรัฐบาลฟิลิปปินส์ยอมรับว่าการส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ต้องเจออุปสรรคจากการขาดแคลนรถบรรทุก ขณะที่ผู้สื่อข่าวบีบีซีระบุว่าในส่วนของหน่วยฉุกเฉินของเมืองตาโกลบานก็ได้รับผลกระทบหนักหน่วง โดยมีกำลังตำรวจแค่ 1 ใน 4 เท่านั้นที่มาทำงานในสัปดาห์นี้
ด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดนเผยว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งลงพื้นที่สำรวจเมืองกุยวาน ทางตะวันออของซามาร์ บรรยายสถานการณ์ที่ประชาชน 45,000 คนที่นั่นต้องเผชิญคืออ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ส่วนศพหลายสิบศพที่เคยนอนเรียงรายอยู่ตรงที่โล่งแจ้งนับตั้งแต่ถูกไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนซัดถล่ม ตอนนี้ถูกนำออกจากถนนและนำไปฝังแล้ว
ทั้งนี้แม้มีความพยายามบรรเทาทุกข์อย่างที่สุด แต่ผู้รอดชีวิตหลายพันคนยังต่อแถวยาวเหยียดที่สนามบินเมืองตาโกลบานเมื่อวันพฤหัสบดี(14) ในความพยายามหลบหนีออกจากเมือง
หลายประเทศประกาศให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ทั้งด้านการเงิน เสบียงและทีมฉุกเฉิน อาทิสหราชอาณาจักรมอบความช่วยเหลือกว่า 20 ล้านปอนด์ ในรูปแบบของเรือบรรทุกเครื่องบินเอชเอ็มเอส อิลลัสเทรียส เข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัย พร้อมด้วยทีมแพทย์และเครื่องบินลำเลียงอีกลำ ส่วนจีน ซึ่งแม้มีข้อพิพาทด้านเขตแดนกับฟิลิปปินส์ ก็่งมอบความช่วยเหลือ 1.6 ล้านดอลลาร์ ในรูปแบบสิ่งของบรรเทาภัย
