เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงในวันจันทร์ (4 พ.ย.) ว่าการกำหนดว่าเมื่อใดจะเป็นเวลาที่เหมาะสมให้ผู้หญิงขับรถได้นั้น เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของซาอุดีอาระเบีย
“เป็นที่ทราบกันอย่างเปิดเผยว่า ที่สหรัฐอเมริกาเรายึดมั่นในหลักที่ว่า คนทุกคนมีความเสมอภาคกัน โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างทางเพศ เชื้อชาติ หรือคุณสมบัติอื่นๆ” เคร์รีกล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงริยาด
เขากล่าวต่อไปว่า “แต่การตัดสินใจในเรื่องของโครงสร้างสังคมของตนเอง ทางเลือกอื่นๆ และการกำหนดเวลานั้น ขึ้นอยู่ซาอุดีอาระเบียเอง”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ ออกมาแถลงว่า ประเทศนี้สนับสนุนให้ผู้หญิงในซาอุดีอาระเบียมี “สิทธิสากล” ในการขับรถ หลังจากที่ช่วงสุดสัปดาห์หนึ่งของเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียหลายคนประท้วงกฎหมายด้วยการออกมาขับรถ
สำหรับ เจนนิเฟอร์ ซากี โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า “เราสนับสนุนการมีสิทธิมีเสียงของผู้หญิงในสังคมซาอุดีอาระเบีย เพราะคนทั่วโลกควรจะต้องมีสิทธิสากลในการชุมนุม และแสดงความเห็นอย่างสันติเหมือนๆ กัน”
“ดังนั้น เราจะสนับสนุนให้พวกเธอขับรถได้อย่างแน่นอน” ซากี กล่าวขณะถูกผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ เรื่องการประท้วงในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่รณรงค์ให้ผู้หญิงออกมาขับรถ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เคร์รีกล่าวภายหลังการหารือกับบรรดาผู้นำของซาอุดีอาระเบียว่า ในซาอุดีอาระเบียนั้น เกิดข้อถกเถียงกันว่าการอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถ จะทำให้สรีระหรืออวัยวะภายในของผู้หญิงได้รับความกระทบกระเทือน “แต่ผมคิดว่าเราควรปล่อยให้ประเด็นนี้เป็นหน้าที่ของชาวซาอุดีอาระเบียที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดีที่สุด” เขาบอกอีกทั้งกล่าวเสริมว่า อย่างไรเสีย ทุกคนต่างก็ทราบว่าสหรัฐฯ มีจุดยืนเช่นไรต่อประเด็นปัญหานี้อยู่แล้ว
ในการประท้วงเมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้หญิงอย่างน้อย 16 คนถูกตำรวจจับกุมตัว โดยพวกเธอถูกปรับ และถูกเจ้าหน้าที่ชายพาตัวไปพร้อมกับพวกผู้ปกครองของเธอที่เป็นผู้ชาย เพื่อให้สัตย์ปฏิญาณว่า จะเคารพกฎหมายของราชอาณาจักรอิสลามเคร่งจารีตแห่งนี้
อนึ่ง ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในซาอุดีอาระเบียได้เกิดกระแสความนิยมอย่างล้นหลาม ต่อคลิปวีดีโอเพลงดัดแปลงซึ่งทำขึ้นเพื่อล้อเลียนกฎหมายห้ามผู้หญิงขับรถของราชอาณาจักรแห่งนี้ คลิปดังกล่าวเป็นผลงานของ ฮิชาม ฟากีห์ ศิลปินนักเคลื่อนไหวชายที่ดัดแปลงเพลง “No Women, No Cry” อันโด่งดังของบอบ มาร์เลย์มาเป็น “no women, no drive” โดยมีเนื้อความเชิงเสียดสีประชดประชัน ขอร้องไม่ให้ผู้หญิงขับรถเพื่อความปลอดภัยของรังไข่ จะได้ผลิตประชากรได้เพิ่มขึ้น