เอเอฟพี – ตำรวจปราบจลาจลของฝรั่งเศสระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงเรือนหมื่น ที่มาชุมนุมกันในบริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสวานนี้ (2 พ.ย.) หลังจากผู้ประท้วงบางส่วนขว้างปาก้อนหิน และท่อนเหล็กใส่เจ้าหน้าที่ ในระหว่างการชุมนุมคัดค้านที่รัฐจะเก็บภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อม และต่อต้านการเลิกจ้างงาน
มีผู้ชุมนุมถูกรวบตัว 3 คน ขณะที่มีผู้ประท้วง 4 คนและตำรวจอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ ภายหลังเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายในการประท้วงช่วงบ่ายวันเสาร์ (2)
ผู้จัดการประท้วงกล่าวว่า มีประชาชน 30,000 คนจากอาชีพต่างๆ เป็นต้นว่า คนขับรถขนส่งสินค้า ชาวประมง และคนงานของโรงงานผลิตอาหาร มาชุมนุมกันที่เขตแก็งเปร์ ของแคว้นบริตานี (เบรอตาญ) เพื่อประท้วงการจัดเก็บภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อมกับคนขับรถบรรทุก และต่อต้านการลอยแพเลิกจ้างคนงานทีละมากๆ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นระลอกในระยะไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะพวกกิจการสัตว์ปีก, โรงฆ่าหมู และโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ของแคว้นนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ รัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกมาประกาศเลื่อนการเก็บภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อมในสัปดาห์นี้แล้วก็ตาม
ทางด้านเจ้าหน้าที่ประมาณการว่ามีผู้มาเข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้ 15,000 คน
ผู้ประท้วงบางคนขว้างปาก้อนหิน ท่อนเหล็ก และกระทั่งกระถางดอกเบญจมาศ (ดอกไม้งานศพ) ใส่ตำรวจ ขณะที่คนอื่นๆ จุดไฟเผาแท่นรองรับสินค้าทำด้วยไม้ (พาเลต) ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมฉีดน้ำความแรงสูงและแก๊สน้ำตาเป็นการตอบโต้
ฝ่าย ฌ็อง-ลุก วิดแลน ผู้ว่าราชการจังหวัดฟีนีส์แตร์ กล่าวว่าเหตุรุนแรงครั้งนี้เป็นฝีมือของ “เสียงข้างน้อย” ที่เป็นกลุ่มหัวรุนแรงขวาจัด ซึ่งเชื่อว่าอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้
ก่อนช่วงสุดสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีฌ็อง-มาร์ก เอย์โรต์ ของฝรั่งเศสออกมาเตือนว่าจะเกิด “เหตุรุนแรงบานปลาย” ในแคว้นบริตานี หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็มีการปะทะกันในการชุมนุมคล้ายๆ กันนี้
ทั้งนี้ ภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมุ่งส่งเสริมการขนส่งเชิงพาณิชย์อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น จะเรียกเก็บจากยานพาหนะทั้งของฝรั่งเศสเอง และของต่างประเทศ ที่ขนส่งสินค้าพาณิชย์หนัก 3.5 ตันขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ บรรดาเกษตรกรและแรงงานของอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจึงพากันโกรธเคืองไปทั่วประเทศ แต่พื้นที่ซึ่งเกิดปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงที่สุดก็คือ แคว้นบริตานี ซึ่งเศรษฐกิจในพื้นที่ต้องพึ่งพาการเกษตรอย่างจริงจัง
แม้ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสออกมาแถลงว่า จะยังไม่เริ่มเก็บภาษีในวันที่ 1 มกราคม ตามที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ แต่เหล่าผู้จัดการประท้วงก็กล่าวว่าเท่านี้ยังไม่พอ โดยเรียกร้องให้ระงับการจัดเก็บภาษีเป็นการถาวรแทน
รัฐบาลแนวกลาง-ขวา พรรคยูเอ็มพีของ นิโกลา ซาร์โกซี เป็นผู้ออกนโยบายเก็บภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี 2009 แต่ต้องเลื่อนการประกาศใช้ออกไปเรื่อยๆ
ทางการฝรั่งเศสระบุว่า จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้ารัฐถึง 1 พันล้านยูโรต่อปี ออกไปอย่างน้อยอีกหลายเดือน
ทางด้านบรรดานักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมออกมาประณามรัฐบาล ที่เลื่อนเวลาจัดเก็บภาษีออกไป โดยโจเซ โบเว เรียกการกระทำเช่นนี้ของรัฐบาลว่า “น่าสมเพช” และ “ถอยหลังเสียจนเสื่อมความน่าเชื่อถือ”