เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ทางการตำรวจจีนแถลงในวันพุธ (30 ต.ค.) ว่า ได้จับกุมบุคคล 5 คนซึ่งต้องสงสัยมีส่วนในการ “โจมตีแบบผู้ก่อการร้าย” ในบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน กลางกรุงปักกิ่ง ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทางการแดนมังกรออกมาระบุว่าเหตุการณ์ขับรถพุ่งชนฝูงชนแล้วเกิดไฟลุกไหม้ที่หน้าประตูเทียนอันเหมิน อันเป็นทางเข้าหลักของพระราชวังโบราณ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 5 คนเมื่อวันจันทร์ (28) เป็นการปฏิบัติการแบบก่อการร้าย
สื่อมวลชนของทางการจีนยังรายงานว่า คนขับรถเอสยูวีคันเกิดเหตุ ซึ่งได้เร่งความเร็วขณะขับไปตามพื้นที่ทางคนเดินถนน แล้วพุ่งเข้าใส่ฝูงชน จากนั้นก็ปะทะเข้ากับราวเหล็กกั้นสะพานและเกิดไฟลุกท่วมคัน มีชื่อว่า อุสเมน ฮะซัน ทั้งเขาและผู้โดยสารในรถอีก 2 คน ซึ่งเป็นภรรยาและมารดาของเขา ต่างเสียชีวิตหมด
ตำรวจกรุงปักกิ่งระบุในแอ็กเคานต์ของเว็บสื่อสังคมของตนที่ผ่านการตรวจตราแก้ไขแล้วด้วยว่า พวกที่อยู่ในรถ “ได้จุดระเบิดน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ภายในรถ จนทำให้รถติดไฟลุกท่วม” และทั้งสาม “ตายในที่เกิดเหตุ”
ตามรายงานของตำรวจแจกแจงด้วยว่า ผู้เสียชีวิตไปด้วยอีก 2 คนในเหตุคราวนี้เป็นนักท่องเที่ยว คนหนึ่งเป็นสตรีจากฟิลิปปินส์ อีกคนหนึ่งเป็นชายจากมณฑลกวางตุ้งของจีน นอกนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีกราว 40 คน
เหตุซึ่งเกิดขึ้นที่ประตูเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกจากการที่บนกำแพงด้านหน้าติดภาพขนาดยักษ์ของประธานเหมา เจ๋อตง คราวนี้ ทางการตำรวจปักกิ่งระบุว่า “เป็นการโจมตีแบบผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการวางแผนมาอย่างระมัดระวัง, มีการจัดองค์กรอย่างรัดกุม และไตร่ตรองไว้ก่อนล่วงหน้าที่จะให้เกิดความรุนแรง” พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า รถคันก่อเหตุบรรทุกทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง, มีดหลายเล่ม และแผ่นป้ายหลายแผ่นเขียนข้อความแบบความเชื่อทางศาสนาอันสุดโต่ง
ตำรวจปักกิ่งบอกว่า รถสปอร์ตยูทิลิตีคันนี้มีป้ายทะเบียนซึ่งบ่งบอกว่ามาจากเขตซินเจียง (ซินเกียง) มณฑลปกครองตนเองของชาวอุยกูร์ทางภาคตะวันตกของประเทศ โดยที่พื้นที่แถบนี้ได้เกิดเหตุไม่สงบของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ไม่หยุดหย่อน
สำหรับผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน ตำรวจระบุว่าได้จับกุมตัวไว้ตั้งแต่วันจันทร์ และคนเหล่านี้ก็รับสารภาพแล้วว่าวางแผนการร้ายก่อการ “โจมตี” คราวนี้ นอกจากนั้นตำรวจยังตามไปตรวจค้นพบ “แผ่นป้ายของพวกญิฮัด”, มีดยาวหลายเล่ม และข้าวของอื่นๆ ในที่พักของผู้ต้องสงสัยอย่างน้อยรายหนึ่ง
ชื่อของครอบครัวที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน และผู้ต้องสงสัยที่ถูกคุมขังอยู่ในเวลานี้ทั้ง 5 คน ฟังดูเหมือนกับเป็นชื่อของชาวอุยกูร์ ทว่าตำรวจมิได้มีการพูดถึงชาติพันธุ์ของคนเหล่านี้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นผู้ถูกจับกุมอย่างน้อยที่สุดรายหนึ่ง ถูกระบุว่ามาจากเขตลุกชุน ซึ่งสื่อมวลชนของทางการจีนเคยรายงานว่า ได้เกิด “การโจมตีของผู้ก่อการร้าย” จนทำให้มีผู้ถูกฆ่าไป 35 คนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
จากการแถลงแจกแจงของตำรวจในคราวนี้ ซึ่งยืนยันว่าผู้ก่อการร้ายก่อเหตุโจมตีบริเวณใจกลางเมืองหลวง ได้ทำให้ชาวเมืองจำนวนหนึ่งแสดงความหวาดผวา
เป็นต้นว่า ผู้ใช้คนหนึ่งของ “ซีนา เว่ยป๋อ” ซึ่งเป็นสื่อสังคมคล้ายๆ กับทวิตเตอร์ของจีน เขียนแสดงความรู้สึกว่า “ผมทำงานในปักกิ่ง ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีพฤติการณ์ก่อการร้ายเกิดขึ้นใกล้ชิดกับเราขนาดนี้” ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “เราต้องทำลายรากเหง้าและสาขาของพวกผู้ก่อการร้าย เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเจอความยุ่งยากกันอีกในวันข้างหน้า”
เวลานี้ยังไม่มีกลุ่มชาวอุยกูร์ใดๆ ออกมาประกาศตัวเป็นผู้ก่อเหตุเมื่อวันจันทร์
ขณะที่ ดิลชัต เรซิต โฆษกผู้หนึ่งของสมัชชาชาวอุยกูร์โลก กลุ่มลี้ภัยนอกประเทศซึ่งทางการจีนประณามว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน กล่าวว่าชะตากรรมของประชาชนชาวอุยกูร์น่าเป็นห่วงมาก เพราะเหตุที่เกิดขึ้นในปักกิ่ง กำลังถูกใช้เป็นข้อแก้ตัวสำหรับการกดขี่ซินเจียง โดยที่จีนกำลังเพิ่มการสอดแนมนักศึกษาและนักธุรกิจชาวอุยกูร์ รวมทั้งมีแหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่ามีชาวอุยกูร์ถูกจับในปักกิ่ง 93 คนแล้ว