เอเจนซีส์ - รถเอสยูวีคันหนึ่งพุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่บริเวณด้านหน้าพระราชวังโบราณ ในเขตจัตุรัสเทียนอันเหมิน กลางกรุงปักกิ่ง ก่อนที่จะชนกับราวเหล็กกั้นและเกิดระเบิดไฟลุกท่วมเมื่อวันจันทร์ (28 ต.ค.) ทำให้ผู้อยู่ในรถทั้ง 3 คนตายเรียบ แล้วยังมีนักท่องเที่ยวเคราะห์ร้ายดับไปด้วยอีก 2 คน ซึ่ง 1 ในจำนวนนี้เป็นชาวฟิลิปปินส์ นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 38 คน ทั้งนี้ตามรายงานของตำรวจเมืองหลวงแดนมังกร ขณะที่ชาวเน็ตจีนลือสนั่นว่านี่เป็นการก่อเหตุอย่างจงใจ ไม่ใช่อุบัติเหตุ
สำนักงานตำรวจกรุงปักกิ่งระบุในไมโครบล็อกของตนใน ซีน่า เว่ยป๋อ ซึ่งคล้ายๆ กับทวิตเตอร์ ด้วยว่า นักท่องเที่ยวอีกคนที่เสียชีวิตเป็นชายซึ่งมาจากมณฑลกวางตุ้ง ขณะที่ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีชาวฟิลิปปินส์ 3 คนและชาวญี่ปุ่น 1 คน
นักท่องเที่ยวที่ตายและบาดเจ็บคือฝูงคนที่ออกันอยู่บริเวณรั้วกั้นหน้าประตูเทียนอันเหมินที่มีภาพประธานเหมา เจ๋อตงขนาดใหญ่ติดอยู่เหนือประตู ซึ่งเป็นทางเข้าหลักสู่พระราชวังโบราณ (กู้กง)
รายงานของตำรวจบอกว่า คนขับรถสปอร์ตยูทิลิตี้คันดังกล่าว ได้หักรถฝ่าแนวรั้วที่กั้นระหว่างทางคนเดินกับถนนฉางอานซึ่งการจราจรหนาแน่น จากนั้นก็ขับไปตามทางคนเดินสู่ประตูเทียนอันเหมิน ซึ่งอยู่บริเวณตอนเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมินอันกว้างขวาง และหลังจากที่รถได้พุ่งชนฝูงชนแล้ว คนขับได้นำรถพุ่งชนราวเหล็กกั้นของสะพานจินซุ่ย อันเป็นสะพานหินเก่าแก่ที่นำไปยังประตูเทียนอันเหมิน แล้วเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้มักถือเป็นเหตุการณ์อ่อนไหว เนื่องจากจัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นจุดสนใจนับจากการชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยของนักศึกษาในปี 1989 ที่ถูกกองทัพปราบปรามอย่างรุนแรง และจัตุรัสแห่งนี้ยังคงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาจากตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เพื่อป้องกันการประท้วงทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในวาระอ่อนไหวต่างๆ
รายงานของตำรวจไม่ได้ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นอุบัติเหตุหรือเกิดขึ้นโดยเจตนา ทว่า ผู้ใช้สื่อสังคมของจีนหลายรายคาดเดาว่า คนในรถอาจจงใจเผาตัวเองประท้วง
นอกจากนี้ตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของบุคคลที่อยู่ในรถ เพียงแต่ยืนยันว่า ทั้งสามคนเสียชีวิต
ภาพเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตเผยให้เห็นภาพรถเอสยูวีลุกไหม้ควันคละคลุ้งบริเวณประตูเทียนอันเหมิน ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า รถคันดังกล่าวเลี้ยวโค้งและพุ่งเข้ามาในพื้นที่ทางเท้าอย่างกะทันหัน ส่วนอีกคนบอกว่า ได้ยินเสียงระเบิดและเห็นไฟลุกไหม้รถ และกำลังตำรวจติดอาวุธแบบทหารได้สั่งให้ผู้คนกลับขึ้นรถและหยุดถ่ายภาพ
ขณะเดียวกัน ภาพที่มีผู้โพสต์ในอินเทอร์เน็ตได้ถูกลบออกภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีสองคนเล่าว่า ถูกกักตัวชั่วคราวใกล้ที่เกิดเหตุ และภาพในอุปกรณ์ดิจิตอลถูกลบออก
เจ้าหน้าที่จีนยังจัดการ “เคลียร์” ที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เริ่มจากเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวออกไป แล้วนำฉากขนาดใหญ่มาปิดเอาไว้ ระหว่างทำการเคลื่อนย้ายซากรถ และทำความสะอาดจนไม่เหลือคราบความเสียหายใดๆ
พื้นที่รอบๆ จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นสถานที่สาธารณะที่อ่อนไหวทางการเมืองและมีการรักษาความปลอดภัยใกล้ชิดที่สุดแห่งหนึ่งของจีน โดยทางตะวันตกคือมหาศาลาประชาชนซึ่งเป็นที่ประชุมรัฐสภาของจีน ส่วนพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอยู่ทางทิศตะวันออก ขณะที่ทิศใต้เป็นสุสานไว้ศพเหมา เจ๋อตง และทิศเหนือมีพระราชวังโบราณซึ่งเป็นมรดกโลกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละถึง 14 ล้านคน
หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบว่า ไม่รู้ “แน่ชัด” เมื่อถูกถามว่ ตำรวจพบหลักฐานว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายหรือไม่ หรือผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติหรือไม่
ทั้งนี้ นอกจากการประท้วงนองเลือดเมื่อปี 1989 แล้ว จัตุรัสเทียนอันเหมินยังเป็นฉากประท้วงหลายครั้งในอดีต
ตัวอย่างเช่นเดือนมกราคม 1982 คนขับแท็กซี่หญิงที่ถูกปรับฐานทำยอดค่าโดยสารไม่ได้ตามโควตา ได้ขับรถพุ่งชนฝูงคนบนสะพานจินซุ่ย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บ 19 คน และ 20 วันหลังจากนั้นโชเฟอร์หญิงผู้นี้ถูกตัดสินประหารชีวิต
ปี 2001 สมาชิกฝ่าหลุนกง 5 คน ได้เผาตัวเองที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ทว่า กลุ่มลัทธินี้กล่าวหาว่า ทางการจีนเป็นผู้จัดฉาก
ต่อมาในเดือน พ.ค. 2007 ชายคนหนึ่งจากซินเจียง ซึ่งเป็นเขตปกครองตัวเองของมุสลิมอุยกูร์ พยายามจุดไฟเผารูปภาพเหมา เจ๋อตง แต่ถูกจับกุมทันที