เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้ (24) ฟื้นตัว หลังลงต่อเนื่องมา 3 วันติด ส่วนทองคำพุ่งแรง จากข้อมูลการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน และปัจจัยนี้เองที่พยุงให้วอล์สตรีทยังปิดบวกได้เล็กน้อย ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัทที่ผสมผสาน
สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ ปิดที่ 97.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ยังลดลง 81 เซ็นต์ ปิดที่ 106.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กขยับลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาตั้งแต่วันจันทร์ (21) ตามหลังคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นอย่างมาก และยังปิดลบต่อเนื่องในวันอังคาร (22) และพุธ (23) หลังมีปัจจัยเกี่ยวกับตัวเลขภาคแรงงานประจำเดือนกันยายนของอเมริกาเข้ามาฉุด
อย่างไรก็ตาม จีเน แมคกิลเลียน โบรกเกอร์และนักวิเคราะห์จากเทรเดชัน เอเนอร์จี มองว่าที่ตลาดน้ำมันปิดบวกวานนี้ (24) บางทีอาจเพราะมันลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว “การปรับขึ้นในวันพฤหัสบดี บ่งชี้ว่ามันอาจมาถึงสุดเส้นทางแล้วก็ได้”
ด้านราคาทองคำวานนี้ (24) พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 1 แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ จากข้อมูลกิจกรรมการผลิตที่แช่มชื่นประจำเดือนตุลาคมในจีน ชาติผู้ซื้อรายใหญ่ของโลก ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเลยทีเดียว โดราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 16.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,350.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปัจจัยนี้เองที่ช่วยผยุงตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (24) จนปิดบวกเล็กน้อย ท่ามกลางรายงานผลประกอบการอันผสมผสานของเหล่าบริษัทชั้นนำ
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 93.56 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,506.89 จุด เอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.61 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,751.99 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 21.89 จุด (0.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,928.96 จุด
รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทต่างๆ ในวันพฤหัสบดี (24) ยังคงให้ภาพที่ผสมผสานของสภาวะทางเศรษฐกิจ ด้วยฟอร์ด และ 3 เอ็ม มีผลประกอบการดีเกินคาดหมาย แต่ยูไนเต็ด คอนติเนนตัล กับ ดาว เคมิคัล ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้