เอเอฟพี – ใครบางคนกล่าวไว้ว่าความเงียบสงบบนโต๊ะอาหารนั้นเปรียบเสมือนทองคำ โดยเฉพาะที่มหานครนิวยอร์กอันพลุกพล่าน และของมีค่าชิ้นนี้เองที่เจ้าของร้านอาหารวัยหนุ่มนำมาเดิมพันกับลูกค้า ที่ถูกห้ามพูดคุยระหว่างรับประทานอาหารมื้อเย็นที่เสิร์ฟเป็น 4 คอร์สย่อยๆ
โครงการนี้ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนที่ร้าน “Eat” ในย่านกรีนพอยต์อันทันสมัยของเมืองบรูคลิน กำลังเป็นที่ร่ำลือกันในมหานครที่มีแต่ร้านอาหารเสียงดังเซ็งแซ่จนผู้คนพร่ำบ่นอยู่เป็นประจำ
สำหรับลูกค้าที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่เช่นนี้ จะต้องจองโต๊ะล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน จึงจะได้รับเอกสิทธิ์ในการรับประทานอาหารที่ห้ามไม่ให้อ้าปากพูดแม้แต่คำเดียว หรือมีเสียงของใครลอยมาให้ได้ยินแม้แต่นิด ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกคืนวันศุกร์หรือวันเสาร์ในห้องเล็กๆ ที่สามารถรับรองแขกได้ 25 ที่นั่ง
“ผมต้องการเปิดโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างตั้งใจและมีสมาธิ ที่โดยปกติ พวกเขาไม่เคยได้รับจากร้านอาหารที่มีแต่เสียงดังโหวกเหวก โดยเฉพาะในนิวยอร์ก” นิโคลัส นอแมน ผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี
สำหรับบรรดาลูกค้าที่กล้าฝ่าฝืนกฎเหล็กข้อนี้ ขณะนั่งรับประทานอาหารเย็นที่มีราคา 40 ดอลลาร์ จะถูกเชิญให้ออกไปนั่งรับประทานที่ม้านั่งด้านนอกต่อ
ขณะกำลังนั่งที่โต๊ะไม้ยาวซึ่งตกแต่งด้วยภาชนะทำจากหิน ลูกค้าจะต้องทำตามกฎพลางลิ้มรสเมนูอาหารที่ประกอบขึ้นโดยใช้ผักออร์แกนิคจากท้องถิ่นเป็นวัตถุดิบหลัก
หนึ่งชั่วโมงเต็มต่อจากนี้ พวกเขาจะนั่งละเลียดอาหาร และมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ราวกับถูกตัดขาดออกจากความรีบเร่ง และความวุ่นวายของโลกภายนอกไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ลูกค้าจะต้องปิดโทรศัพท์มือถือ โดยลูกค้าบางคนถือเป็นจริงเป็นจังว่าการได้ดื่มด่ำบรรยากาศเช่นนี้เป็นโอกาสที่มีค่า ซึ่งตรงข้ามอย่างคนละขั้วกับความอึกทึกครึกโครมที่พบได้อยู่โดยตลอดในนิวยอร์ก มหานครที่ไม่เคยหลับใหล
ตอนแรก นอแมนวางแผนว่าจะจัดมื้ออาหารแห่งความเงียบเพียงเดือนละครั้ง แต่เนื่องจากสถานที่ปลีกวิเวกใจกลางเมืองอันคึกคักจอแจแห่งนี้ กลับได้รับความนิยมอย่างล้มหลามเขาจึงต้องปรับแผนใหม่เป็นสัปดาห์ละครั้ง