เอเอฟพี – แพทย์ชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งป่วยเป็นวัณโรคและไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยขณะออกตรวจคนไข้ ส่งผลให้มีผู้เสี่ยงได้รับเชื้อไปกว่า 600 คน เจ้าหน้าที่เมืองปลาดิบเผยวันนี้(16)
คุณหมอวัย 50 ปีผู้นี้เปิดคลินิกรักษาคนไข้ที่เมืองอิโตะ และเริ่มแสดงอาการของวัณโรคตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ทว่าเจ้าตัวหลงคิดว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา
แพทย์ผู้นี้ยังคงรักษาคนไข้ตามปกติโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย จนกระทั่งตรวจพบว่าตนเองป่วยเป็นวัณโรคเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ระหว่างนั้นเขาได้อยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่นรวมทั้งสิ้น 658 คน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว, พนักงานประจำคลินิก และคนไข้กว่า 600 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5 ราย
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า วัณโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปทำลายปอด และสามารถแพร่กระจายสู่บุคคลอื่นผ่านการจามหรือไอ โดยแต่ละปีจะมีประชากรเสียชีวิตจากโรคนี้ราว 1 ล้านคน
โรคนี้แม้จะพบได้ทั่วทุกภูมิภาค แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และมีอัตราการตายสูงกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นแถลงว่า ทางกระทรวงได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังคนไข้ทุกคนของแพทย์รายนี้แล้ว ทว่าจะไม่มีการเปิดเผยชื่อคลินิก หรือชื่อของแพทย์
“ผู้ที่ได้รับเชื้อวัณโรคจะป่วยจริงเพียงราวๆ 10-15% และกว่าจะแสดงอาการก็ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน” โฆษกอธิบาย เมื่อถูกสื่อมวลชนซักถามว่า เหตุใดกระทรวงสาธารณสุขจึงไม่แจ้งเตือนประชาชนให้เร็วกว่านี้
ข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ WHO ระบุว่า ร้อยละ 87 ของผู้ป่วยวัณโรคได้รับการรักษาจนหายดีในปี 2010