เอเจนซีส์ - แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.1 ในแถบตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 93 คน ขณะที่ก่อให้เกิดเหตุดินถล่มฝังบ้านเรือนไว้ข้างใต้ในหลายๆ จุด และเป็นชนวนให้เกิดการเหยียบกันตาย รวมทั้งโบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ที่สุดของประเทศก็ได้รับเสียหาย
ตามรายงานของสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ มีผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแน่นอนแล้วจำนวน 15 คนในเมืองเซบู เมืองสำคัญที่สุดเป็นอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ และก็เป็นปากทางเพื่อไปยังชายหาดสวยงามที่สุดหลายๆ แห่งของประเทศนี้
ขณะเดียวกันที่เกาะโบฮอล ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน มีรายงานว่าพบคนตาย 77 คน และยังมีอีก 1 รายบนเกาะซิกุยเจอร์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างออกไป เวลานี้ยังไม่มีรายงานว่า มีชาวต่างชาติเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด ทว่าเนื่องจากบริเวณแถบนี้มีชายหาดที่งดงาม จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์สำทับว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปประเมินความเสียหายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในโบฮอล ซึ่งถนนและกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด
อย่างไรก็ดี ความที่ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นในวันหยุดราชการ จึงทำให้มีผู้คนในอาคารต่างๆ น้อยกว่าปกติ ยอดความสูญเสียจึงลดลง และเนื่องจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบนแผ่นดิน จึงทำให้ไม่มีคลื่นยักษ์สึนามิตามมาแต่อย่างใด
ตามรายงานของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 8.12 น. วันอังคารตามเวลาท้องถิ่นของฟิลิปปินส์ (ตรงกับ 7.12 น.เวลาเมืองไทย) โดยมีศูนย์กลางอยู่ใกล้เมืองบาลิลิฮันที่มีประชากรราว 18,000 คนบนเกาะโบฮอล ณ ความลึก 20 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงมะนิลา 629 กิโลเมตร โดยมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างน้อย 4 ครั้ง วัดความแรงได้มากกว่า 5.0
เดนนิส อากุสติน ผู้บังคับการตำรวจโบฮอลระบุว่า หนึ่งในพ้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายหนักหน่วงที่สุดก็คือเมืองลูน เมืองชายทะเลที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวราว 20 กิโลเมตร โดยเท่าที่สำรวจได้ มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 15 คนเนื่องจากดินที่ถล่มลงมาในหลายๆ ซึ่งฝังบ้านเรือนและทางหลวงหลายๆ ตอนเอาไว้เบื้องล่าง
แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังส่งผลให้เมืองเซบู ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะโบฮอลโดยมีเพียงช่องแคบเล็กๆ คั่นอยู่ ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง อาคารมากมายถล่ม โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปปินส์คือ บาซิลิกา มินอเร เดล ซานโต นิโน ในเมืองเซบู ได้รับความเสียหาย ขณะที่พื้นถนนหลายสายเกิดการแยกตัว และสะพานหลายแห่งก็ทรุด
เซบูซึ่งมีประชากร 2.5 ล้านคน เป็นศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรมในแถบตอนกลางของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งท่าเรือที่คับคั่งที่สุด และสนามบินใหญ่ที่สุดนอกกรุงมะนิลา อีกทั้งมีอุตสาหกรรมต่อเรือขนาดใหญ่
นีล ซานเชซ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติของเซบูเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังทำให้เกิดเหตุเหยียบกันตายในหลายเมืองที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ผู้คนในศูนย์กีฬาในเซบู ซึ่งกำลังรอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลต่างพากันตื่นตกใจและวิ่งหนีออกมา ส่งผลให้มีคนตาย 5 คนและบาดเจ็บ 8 คน
ฟิลิปปินส์นั้นตั้งอยู่บน “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่เป็นประจำ
เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ก็มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายกว่า 100 คน หลังเกิดแผ่นดินไหวบนเกาะเนกรอส ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ราว 100 กิโลเมตร
ภัยพิบัติธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ที่มีการบันทึกไว้คือ เหตุสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ที่อ่าวโมโรบนเกาะมินดาเนาในปี 1976 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,000-8,000 คน