“ชาวโรมาเนีย” ทั่วประเทศประท้วง “บ.แคนาดา” ทำ “เหมืองทอง”-พร้อมกดดันรัฐบาลให้ลาออก

เอพี/เอเอฟพี - ชาวโรมาเนียนับพันคนทั่วประเทศรวมตัวประท้วงในวันอาทิตย์(13) ที่ผ่านมา เพื่อประท้วง Gebriel Resources บริษัทแคนาดาที่ต้องการเปิดเหมืองทองแบบเหมืองหาบขึ้นในเมืองโรเซีย มอนทานา และในเมืองนี้ยังเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม โดยกลุ่มผู้ประท้วงอ้างการทำเหมืองหาบที่ต้องใช้ไซยาไนด์นับหมื่นตันต่อปีเป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนั้นเรียกร้องให้รัฐบาลโรมาเนียลาออก

ผ่านมาอาทิตย์ที่ 6 ที่ผู้ประท้วงชาวโรมาเนียราว 4,000 คน รวมตัวกันที่กรุงบูคาเรสต์ รวมทั้งผู้ประท้วงในเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ รวมถึงผู้ประท้วงอีก 3,500 คน จากเมืองคลูจ และอีก 600 คนในเมืองทิมิโซอารา เพื่อเรียกร้องให้โปรเจกต์เหมืองทองของGebriel Resources บริษัทสัญชาติแคนาดาต้องยกเลิกไป พร้อมกันนั้นได้เรียกร้องให้รัฐบาลโรมาเนียต้องลาออก

ในขณะนี้บริษัท Gebriel Resources พยายามที่จะขอใบอนุญาตเพื่อจะเดินหน้าโปรเจกต์เหมืองทองแบบการทำเหมืองหาบที่เมืองโรเซีย มอนทานา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือมาเป็นเวลากว่าเป็นเวลา 14 ปี โดยบริษัทแห่งนี้เป็นเจ้าของ 80% ของบริษัท โรเซีย มอนทานา โกลด์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งได้ร้องขอใบอนุญาตตั้งแต่ปี 1999 แต่ก็ต้องรอการอนุมัติจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมโรมาเนียมายาวนานจนถึงในปัจจุบัน

โดยคาดว่าเหมืองทองที่จะเปิดใหม่นี้อยู่ในบริเวณที่เคยมีการทำเหมืองเงินและทองมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน และด้วยความสามารถทางวิทยาการในการทำเหมืองหาบของ Gebriel Resources ที่การทำเหมืองประเภทนี้ต้องใช้ไซด์ยาไนด์ 12,000 ตัน ต่อปี ทำให้คาดกันว่า การค้นหาจะมีประสิทธิภาพกว่ามาก และคาดกันว่าทางบริษัทจะสามารถสกัดแร่ทองที่มีฝังอยู่ราว 314 ตัน และแร่เงินราว 1,500 ตันได้ออกมาได้ทั้งหมดราว 20 ปี

การประท้วงเหมืองทองนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 เดือนสิงหาคม เมื่อรัฐบาลโรมาเนียได้ส่งร่างกฎหมายเข้าสู่รัฐสภาโรมาเนียให้อนุมัติโปรเจกต์เหมืองทองที่อื้อฉาวนี้ และการโหวตลงคะแนนจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าแปลกใจว่า นายกรัฐมนตรีโรมาเนีย วิกเตอร์ ปอนตา ที่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นฝ่ายค้านได้คัดค้านแผนการทำเหมืองทองนี้ แต่ในปัจจุบันเขาได้กลับลำหันมาสนับสนุนและเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วงตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปี เมื่อพิจารณาจากร่างกฎหมายฉบับนี้จะพบว่า กฎหมายอนุญาตให้สมาชิกรัฐสภาโรมาเนียเอื้อให้ทางบริษัทได้รับความสะดวกทุกอย่างในการรับใบอนุญาตเพื่อทำเหมืองหาบแห่งนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมายของประเทศ คำสั่งศาล หรือแม้แต่ข้อกำหนดให้มีการทำประชาพิจารณ์ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีอำนาจในการโยกย้ายที่อยู่อาศัยของชาวโรมาเนียหากมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณเขตเหมือง

ซึ่งบรรดาผู้คัดค้านโปรเจกต์นี้ อาทิ นักวิชาการ และนักสิ่งแวดล้อม ต่างอ้างว่า บริษัทแคนาดาใช้ไซยาไนด์ ในกระบวนการสกัดแร่หายากนั้นเปรียบเสมือนระเบิดเวลา และของเสียที่เหมืองจะต้องปล่อยออกมาอีกราว 13 ล้านตันต่อปี ที่สำคัญไปกว่านั้นชาวโรมาเนียได้ผลประโยชน์ที่น้อยมากจากโปรเจกต์นี้อีกด้วย โดยทางบริษัทจะต้องทำลายถึง 3 หมู่บ้านและภูเขาอีก 4 ลูกด้วยกัน

ในขณะกลุ่มผู้สนับสนุนการทำเหมืองทองโต้กลับว่า เหมืองทองที่จะได้รับอนุญาตให้เปิดนั้นจะสร้างงานให้กับผู้ว่างงานในโรมาเนีย นอกจากนี้โครงการนี้เป็นการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในแถบที่ห่างไกลความเจริญของประเทศ

ซึ่งทางบริษัท Gebriel Resources ได้ประกาศว่าหากการทำเหมืองหาบนี้ได้เดินหน้า จะสามารถสร้างงานขึ้นราว 2,300 ตำแหน่ง ในช่วงก่อสร้าง 2 ปี แรก และอีก 900 ตำแหน่ง ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ได้รับอนุญาตในการทำเหมือง และทางบริษัทยังจะรักษาสิ่งแวดล้อมไป พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทาวัฒนธรรมที่อยู่ใกล้เคียงไปด้วย