เอพี/เอเจนซีส์ – พลเมืองอเมริกันคนหนึ่งซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน ร่วมสมคบจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กลุ่มตอลิบาน และมีจรวดต่อสู้อากาศยานไว้ในครอบครอง ถูกศาลพิพากษาจำคุก 25 ปี เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.)
อัลวาร์ ปูร์ยัน ได้รับโทษขั้นต่ำสุดที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานมีจรวดต่อสู้อากาศยานในครอบครอง เนโอมาย รีซ บุชวัลด์ ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ประจำเขตแมนฮัตตัน ได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิตเหลือ 25 ปี โดยจำเลยได้ร้องขอให้ลงโทษเพียงขั้นต่ำสุด
เมื่อเดือนสิงหาคม ปูร์ยัน ชาวเคิร์ด ซึ่งเกิดในเคอร์ดิสถาน ประเทศอิหร่าน และโอเด็ด ออร์แบค ผู้ร่วมกระทำผิด ที่เป็นพลเมืองอเมริกันเช่นกัน ได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด หลังจากการพิจารณาคดีเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยออร์แบคมีกำหนดที่จะถูกศาลพิพากษากำหนดโทษในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
พรีต บารารา อัยการสหรัฐฯ ระบุในคำแถลงว่า ปูร์ยันเป็น “ชาวอเมริกันซึ่งมีความกระตือรือร้นเหลือเกินที่จะทำธุรกิจกับกลุ่มตอลิบาน” อีกทั้งเขากล่าวถึงคำพิพากษานี้ว่า “เหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับบุคคลที่ใจดำอำมหิตจนขายประเทศตัวเองได้”
ทั้งนี้ ชายทั้งสองคนถูกทางการโรมาเนียจับกุมได้ที่กรุงบูคาเรสต์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยที่พวกเขาถูกสำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ เฝ่าติดตามอยู่นาน 2 ปี จนกระทั่งได้หลักฐานชัดเจนว่าพวกเขาตกลงที่จะจัดหาอาวุธสงคราม เป็นต้นว่า จรวดนำวิถีด้วยความร้อนจากพื้นสู่อากาศ ให้แก่บุคคลที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มตอลิบาน ทางการสหรัฐฯ ระบุ
อัยการกล่าวว่า ปูร์ยันและออร์แบคได้ตกลงระหว่างการเจรจาหลายครั้งทั้งที่กานา ยูเครน และโรมาเนียที่จะขายอาวุธให้กับแหล่งข่าวลับรายหนึ่ง เพื่อเอาไว้ให้กลุ่มตอลิบานใช้ต่อสู้กับกองทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน โดยบุคคลทั้งสองได้รับการบอกเล่าอย่างชัดเจนว่าจรวดประเภทพื้นสู่อากาศนั้น เป็นสิ่งจำเป็นในการปกป้องโรงผลิตเฮโรอีนของกลุ่มตอลิบานไม่ให้ถูกสหรัฐฯ โจมตีด้วยเฮลิคอปเตอร์
อัยการระบุว่า ชายทั้งสองตกลงที่จะจัดหาอาวุธ เครื่องกระสุนปืน ตลอดจนฝึกสอนวิธีใช้ รวมเป็นมูลค่ากว่า 25 ล้านดอลลาร์ และยังวางแผนว่าพวกเขาจะได้รับค่านายหน้ากว่า 800,000 ดอลลาร์
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล ทนายความของปูร์ยันระบุว่า เมื่อปี 1996 ปูร์ยันได้ขอลี้ภัยทางการเมืองในสหรัฐฯ หลังจากที่อิรักกลายเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับชาวเคิร์ด เขาเข้ามาในสหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายน ปี 1997 แต่ไม่มีครอบครัวในประเทศนี้ และเคยทำงานเป็นนักภาษาศาสตร์ให้กองทัพอเมริกัน ในฐานะพนักงานสัญญาจ้างอยู่ช่วงหนึ่ง จนในท้ายที่สุดเขาก็มีบ้านและร้านขายของเป็นของตนเองในสหรัฐฯ
