เอเอฟพี/เอพี - ราคาน้ำมันลงอีกวานนี้ (11) เหตุหน่วยงานพลังงานสากลเผยมีการผลิตเพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือและชาติอื่นๆ บางประเทศ ขณะที่หุ้นสหัฐฯพุ่งแรงและทองคำดิ่งหนัก หลังมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าวอชิงตันคงไม่ประสบกับภาวะผิดนัดชำระหนี้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 99 เซนต์ ปิดที่ 102.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 111.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์เพ่งเล็งไปที่รายงานของบทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ซึ่งระบุว่าในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา การผลิตเชื้อเพลิงในเหล่าชาติที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปก เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือและชาติอื่นๆ บางประเทศ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (11) ปิดบวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ท่ามกลางแนวโน้มที่มีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆว่าวอชิงตันจะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ระยะสั้นๆ หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ทันเส้นตาย 17 ตุลาคม
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 111.04 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,237.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.64 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,703.20 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 31.13 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,791.87 จุด
ความกังวลของนักลงทุุนผ่อนคลายลงไปตั้งแต่วันพฤหัสบดี (10) หลังจากแกนนำรีพับลิกันยื่นข้อเสนอขยายความสามารถในการชำระหนี้ออกไป 6 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้แม้ในวันศุกร์ (11) ยังไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ แต่ตลาดก็ได้แรงหนุนจากการที่ทั้งสองฝ่ายยังเดินหน้าพูดคุยที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจัยนี้ผลักให้นักลงทุนหมางเมินทองคำ ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แล้วหันไปเก็งกำไรในตลาดหุ้น ส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าสีเหลืองชนิดนี้ ปิดลบอย่างแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 28.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,268.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม