xs
xsm
sm
md
lg

ประกาศแล้ว! “องค์การตรวจอาวุธเคมี” ได้รางวัลโนเบลสันติภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพซึ่งถ่ายเอาไว้เมื่อวันพุธ (9 ต.ค.) ที่ผ่านมา ขณะที่ อาเหม็ต อูซุมคู ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี” (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons ใช้อักษรย่อว่า OPCW) กำลังแถลงข่าวที่สำนักงานขององค์การในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ คณะกรรมการรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเพิ่งประกาศในวันนี้ (11 ต.ค.)ว่า องค์การตรวจตราเฝ้าระวังอาวุธเคมีระดับโลกแห่งนี้คือผู้ได้รับรางวัลนี้ประจำปีนี้
รอยเตอร์ – องค์การตรวจตราเฝ้าระวังอาวุธเคมีระดับโลก ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “องค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี” (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons ใช้อักษรย่อว่า OPCW) คือผู้ชนะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ ทั้งนี้ตามการประกาศของคณะกรรมการรางวัลในวันนี้ (11 ต.ค) โดยที่งานชิ้นใหญ่ล่าสุดของหน่วยงานที่ค่อนข้างเล็กแห่งนี้คือ การทำหน้าที่กำกับตรวจสอบการทำลายอาวุธเคมีของซีเรีย



OPCW ซึ่งมีบุคลากรและงบประมาณสนับสนุนไม่มากนัก ได้จัดส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญของตนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในซีเรีย ภายหลังเกิดเหตุโจมตีด้วยก๊าซพิษ “ซาริน” ที่บริเวณชานกรุงดามัสกัสในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 1,400 คน

การเข้าปฏิบัติหน้าที่ของ OPCW ภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติ มีส่วนช่วยทำให้ทางการสหรัฐฯเปลี่ยนใจไม่ใช้กำลังทหารเข้าโจมตีเล่นงานประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย

โธร์บเจิร์น จักแลนด์ ประธานคณะกรรมการรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐสภานอร์เวย์ แถลงว่าการมอบรางวัลปีนี้ให้แก่ องค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนชาติต่างๆ ที่ยังคงมีอาวุธเคมีสะสมเอาไว้เป็นจำนวนมาก เป็นต้นว่า สหรัฐฯ และรัสเซีย ให้กำจัดคลังอาวุธของพวกเขา “โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อพวกเขากำลังเรียกร้องให้คนอื่นๆ ทำอย่างเดียวกันนี้ อย่างเช่นว่า ซีเรีย”

“เวลานี้เรามีโอกาสแล้วที่จะกำจัดอาวุธทำล้ายล้างสูงประเภทหนึ่งให้หมดสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง ถ้าหากเราสามารถทำได้เช่นนั้นจริงๆ นี่ก็จะเป็นเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์” เขากล่าว

ภารกิจในซีเรียของ OPCW ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะต้องเข้าไปตรวจสอบสถานที่เก็บสะสมและทำลายอาวุธเคมีในตลอดทั่วประเทศซีเรีย ที่กำลังอยู่ในสงครามกลางเมืองอันดุเดือดรุนแรง โดยที่ประมาณการกันว่าได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 100,000 คน สมาชิกในทีมงานขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เคยถูกมือซุ่มยิงของฝ่ายใดไม่ปรากฏชัด ดักยิงมาแล้วในระหว่างการเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุบริเวณชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการ OPCW อาเหม็ต อูซุมคู แถลงในสัปดาห์นี้ว่า พวกเจ้าหน้าที่ทางการซีเรียนั้นกำลังให้ความร่วมมือเป็นอันดีกับการดำเนินกระบวนการทำลายอาวุธเคมีของทางองค์การ

การตัดสินประจำปีนี้ เป็นเครื่องหมายแสดงว่าคณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้หวนกลับคืนสู่รากเหง้าเดิมของรางวัลนี้ ภายหลังจากเมื่อปีที่แล้วได้มอบรางวัลให้สหภาพยุโรป (อียู) และในปี 2009 ให้แก่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ

คำตัดสินในหลายๆ ปีเหล่านั้นได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะกรรมการกำลังก้าวล้ำผิดแผกออกนอกจิตวิญญาณของรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งก่อตั้งโดย อัลเฟรด โนเบล นักอุตสาหกรรมชาวสวีเดนที่เป็นผู้ประดิษฐ์ดินระเบิดไดมาไมต์

ทั้งนี้ในพินัยกรรมปี 1895 ของเขา อัลเฟรด โนเบล ระบุว่า รางวัลในสาขาสันติภาพควรมอบให้แก่ผู้ที่มีผลงาน 1 ใน 3 เรื่องต่อไปนี้ คือ “การสร้างภราดรภาพในระหว่างชาติต่างๆ”, การกำจัดหรือการลดกองทัพประจำการที่มีอยู่, และการก่อตั้งตลอดจนการเผยแพร่การชุมนุมรวมตัวกันเพื่อให้เกิดสันติภาพ

ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศรางวัลปีนี้ มาลาลา ยูซาฟไซ เด็กสาววัย 16 ปีชาวปากีสถาน ซึ่งถูกกลุ่มตอลิบานยิงที่ศีรษะแต่รอดชีวิตมาได้ คือตัวเก็งที่พวกบริษัทรับพนันถูกกฎหมายต่างๆ ให้อัตราต่อรองว่ามีโอกาสที่จะได้รางวัลนี้มากที่สุด ขณะที่ OPCW ผู้ชนะตัวจริงเพิ่งถูกพาดพิงคาดเดากันก็ในช่วงชั่วโมงท้ายๆ ก่อนกำหนดเวลาประกาศผล

รางวัลซึ่งเป็นเงินมูลค่าประมาณ 1.25 ล้านดอลลาร์ จะทำพิธีมอบกันที่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ อันเป็นวันครบรอบการถึงแก่กรรมของ อัลเฟรด โนเบล

สำหรับ OPCW ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามอนุสัญญาอาวุธเคมีปี 1992 ซึ่งนานาชาติร่วมลงนามกันเพื่อห้ามการใช้และทำลายอาวุธเคมี ผลงานในระยะไม่ปีก่อนมานี้ขององค์การนี้ นอกเหนือจากที่ซีเรียแล้ว ยังได้ไปช่วยทำลายคลังอาวุธเคมีในอิรักและลิเบีย OPCW มีลูกจ้างพนักงานราว 500 คน และมีงบประมาณใช้จ่ายในแต่ละปีไม่ถึง 100 ล้านดอลลาร์

ทั้งสหรัฐฯและรัสเซียต่างได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำลายคลังแสงอาวุธเคมีของตนภายในปี 2012 ทว่าจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้ทำตามสัญญา
กำลังโหลดความคิดเห็น