xs
xsm
sm
md
lg

อาเซียนอ่วม! ต้องนำเข้าน้ำมันมหาศาลในอนาคต ไทย-อินโดนีเซียแย่สุดต้องควักกระเป๋าซื้อน้ำมัน 2.2 ล้านล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเผยรายงานฉบับล่าสุดในวันพุธ (2) โดยระบุ ความต้องการน้ำมันของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นมากกว่า 5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี ค.ศ. 2035 จากระดับปัจจุบันที่วันละ 1.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งหมายถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์

รายงานของไออีเอชี้ว่า ด้วยความต้องการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ทั้ง 10 ประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ (ไม่นับรวมติมอร์ตะวันออก)คือไทย พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน ดารุสซาลาม กำลังจะขึ้นแท่นเป็นดินแดนที่มีการนำเข้าน้ำมันมากเป็น “อันดับที่ 4” ของโลก รองจากจีน อินเดีย และสหภาพยุโรป (อียู)

อย่างไรก็ดี การก้าวขึ้นแท่นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 4 ของโลกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ไม่ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่อย่างใด เนื่องจากภายในปี 2035 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจาก“นอกภูมิภาค”ในสัดส่วนที่สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการทั้งหมดเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของตน

ขณะที่ในปัจจุบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีระดับการนำเข้าน้ำมันจากนอกภูมิภาคของตนอยู่ที่ระดับ 44 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

และหากเปรียบเทียบทั้ง 10 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะพบว่าไทยและอินโดนีเซีย จะเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากภายนอกสูงที่สุด ซึ่งเท่ากับว่าไทยและอินโดนีเซียต้องใช้เงินชาติละกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.19 ล้านล้านบาท) ในการเข้าถึงทรัพยากรพลังงานชนิดนี้เมื่อถึงปี 2035

ขณะเดียวกัน รายงานของไออีเอสรุปว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น