เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-องค์กรพลังงานสากล (ไออีเอ) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเปิดเผยรายงานล่าสุดซึ่งระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมัน “นอกกลุ่มโอเปก” หรือนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันปิโตรเลียมเป็นสินค้าออก มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผลผลิตน้ำมัน “เมด อิน ยูเอสเอ” จากสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจากรายงานของไออีเอระบุว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯอยู่ที่ระดับ 297,928 บาร์เรลส์ เพิ่มขึ้น 13.2 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ปริมาณน้ำมันที่ถูกผลิตออกสู่ตลาดโลกในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นถึงกว่า 515,000 บาร์เรลส์ซึ่งปริมาณน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนใหญ่มาจากกำลังการผลิตของประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย สหรัฐฯ จีน แคนาดา เม็กซิโก นอร์เวย์ บราซิล และคาซัคสถาน
ขณะเดียวกันมีแนวโน้มที่ปริมาณการผลิตน้ำมันจากผู้ผลิตในทวีปอเมริกาเหนือทั้งสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโกจะยังคงมีทิศทางที่พุ่งสูงขึ้นต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เฉลี่ยกว่า 1.4 ล้านบาร์เรลส์ต่อวัน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเพิ่งออกมาเปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันดิบของเมืองลุงแซมในเดือนกรกฎาคม ได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบมากกว่า 20 ปี
อย่างไรก็ดี ไออีเอประเมินว่า ปริมาณความต้องการบริโภคน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเริ่มลดน้อยถอยลงในปีหน้า จากผลของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในหลายภูมิภาคของโลกตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
