“แกมเบีย” ประกาศถอนตัวจาก “เครือจักรภพอังกฤษ” มีผลทันที

เอเอฟพี - รัฐบาลแกมเบียประกาศถอนตัวออกจากเครือจักรภพอังกฤษ โดยมีผลทางกฎหมายทันทีเมื่อวานนี้ (2) พร้อมให้เหตุผลว่าไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ “สถาบันอาณานิคมยุคใหม่” (neo-colonial institution) อีกต่อไป

ถ้อยแถลงจากรัฐบาลแกมเบียระบุว่า “รัฐบาลขอประกาศให้ประชาชนชาวแกมเบียทราบว่า ประเทศของเราได้ออกจากความเป็นสมาชิกเครือจักรภพอังกฤษ โดยมีผลบังคับในทันที”

“รัฐบาลได้ขอเพิกถอนสมาชิกภาพแห่งเครือจักรภพ และตัดสินใจแล้วว่าแกมเบียจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันใดๆ ที่สื่อถึงความเป็นอาณานิคม”

เครือจักรภพ (Commonwealth) ประกอบด้วยสมาชิกกว่า 50 ประเทศที่รวมกันเป็นสมาคมประชาชาติโดยสมัครใจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน

รัฐบาลแกมเบียยังไม่ได้แถลงรายละเอียดมากกว่านี้ แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศคนหนึ่งเผยต่อเอเอฟพีว่า เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลแกมเบียเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอของเครือจักรภพอังกฤษที่ต้องการให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการปกป้องสิทธิมนุษยชน, เสรีภาพสื่อมวลชน และต่อต้านการทุจริตขึ้นในกรุงบันจูล

ก่อนหน้านั้น คามาเลช ชาร์มา เลขาธิการใหญ่เครือจักรภพ ได้เดินทางไปเยือนแกมเบียเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 และได้เข้าพบประธานาธิบดียะห์ยา จัมเมห์ กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอีกหลายคน

จัมเมห์ ซึ่งก้าวสู่อำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 1994 ได้ปกครองแกมเบียซึ่งเป็นประเทศเล็กที่สุดในทวีปแอฟริกามานานร่วม 2 ทศวรรษ และถูกนานาชาติติเตียนเรื่องการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่เนืองๆ

รายงานว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยที่จัดทำโดยรัฐบาลอังกฤษ และเผยแพร่เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ระบุว่า แกมเบียเป็นประเทศหนึ่งที่มีการล่วงละเมิดสิทธิพลเมืองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฎหมาย, การสั่งปิดสถานีวิทยุและหนังสือพิมพ์ ตลอดจนการแบ่งแยกกีดกันชนกลุ่มน้อย

เมื่อปี 2010 สหภาพยุโรปซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของแกมเบีย ได้ประกาศยกเลิกเงินช่วยเหลือ รัฐบาลบันจูลจำนวน 22 ล้านยูโร เนื่องจากความกังวลเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนและหลักธรรมาภิบาล

โฆษกสำนักงานกิจการต่างประเทศและเครือจักรภพอังกฤษ แถลงวันนี้ (3) ว่า “เราจะเสียดายอย่างยิ่งหากแกมเบีย หรือประเทศอื่นใดก็ตาม ตัดสินใจถอนตัวออกจากเครือจักรภพ” แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า การจะเป็นสมาชิกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละรัฐบาล

แกมเบียเป็นดินแดนเล็กๆที่แทรกอยู่กลางประเทศเซเนกัล และแม้จะประสบวิกฤตความยากจนอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีชายหาดที่สวยงามเป็นที่ติดอกติดใจของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป