เอเจนซีส์ - ยูทิวบ์เว็บไซต์แชร์วิดีโอที่มียอดผู้เข้าชมจากทั่วโลกและเต็มไปด้วยการแสดงความคิดเห็นที่ไม่มีคุณภาพเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่อีกต่อไปเพราะ “กูเกิล” เจ้าของ “ยูทิวบ์” ได้ประกาศในวันอังคาร (24) ถึงการปฏิรูประบบการจัดลำดับแสดงความเห็นบนยูทิวบ์ด้วยการออกกฎให้ผู้โพสต์ต้องใช้แอคเคาตน์บนกูเกิลพลัสในการล็อกอินเพื่อแสดงความคิดเห็น โดยกูเกิลใช้วิธีการจัดลำดับแสดงความคิดเห็นแบบ “อิงความสำคัญจากโพรไฟล์” เป็นหลัก
มีหลายเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตที่คนส่วนมากปลดปล่อยความเครียดด้วยการแสดงความหยาบคาย ด่าทอ ดูถูก และเกลียดชัง ไม่แคร์สังคม หรือทำตัวโลกสวย แต่ทว่าเมื่อดูจากทั้งหมดแล้วจะไม่เห็นเว็บไซต์ใดจะรวบรวมความเห็นที่ด้อยคุณภาพไว้เป็นจำนวนมากได้เท่ากับยูทิวบ์ ซึ่งกูเกิลได้เห็นปัญหาบนระบบการออกความเห็นของเว็บไซต์แชร์วิดีโอนี้ และพบว่าวิดีโอคลิปที่มีความนิยมมากจะยิ่งมีความเห็นที่ด้อยคุณภาพปรากฏอยู่มากเป็นเงาตามตัว
ดังนั้นในวันอังคาร (24) ที่ผ่านมา กูเกิลเจ้าของยูทิวบ์ได้นำเสนอไอเดียการปฏิรูประบบการออกความเห็นของยูทิวบ์ใหม่ คือจะแสดงการจัดลำดับความเห็นจากประวัติเป็นหลัก ซึ่งตรงกันข้ามกับระบบการออกความเห็นปัจจุบันนั้นจะให้ความเห็นที่โพสต์ล่าสุดขึ้นก่อน (Newest)
ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของยูทูปนี้ กูเกิลออกกฎให้ผู้ใช้งานที่ต้องการแสดงความเห็นบนยูทิวบ์นั้นต้องมี “แอคเคาตน์ของกูเกิลพลัส” โดยกูเกิลจะจัดลำดับความสำคัญการแสดงความเห็นจากโพรไฟล์เป็นหลัก เช่น ความเห็นจากผู้ผลิตวิดีโอคลิปนั้น หรือจากผู้อัปโหลดวิดีโอชิ้นนั้นขึ้นยูทิวบ์ หรือคนที่เป็นคนรู้จักจากคนสร้างหรือคนอัปโหลดจะได้รับสิทธิพิเศษให้ขึ้นก่อนอยู่ในลำดับต้น นอกจากนี้หากความเห็นผู้โพสต์มีคะแนนนิยมมากก็จะได้รับการถูกจัดในลำดับต้น หรือการที่ผู้ใช้เป็นที่มีชื่อเสียงดีบนกูเกิลพลัสก็จะได้รับให้จัดอยู่ในความเห็นลำดับแรกอีกด้วย เช่น ถ้าผู้ใช้ถูกระบบหมายหัวว่าเป็น “สแปม” ความเห็นคุณจะไม่ได้รับการแสดง และที่สำคัญ จะอนุญาตให้ผู้สร้างหรือคนอัปโหลดวิดีโอสามารถบล็อกคำหรือกลุ่มคำของการแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสม หรือสามารถอนุมัติคอมเมนต์นั้นโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย โฆษกของยูทิวบ์ แมต แมคเลนอนกล่าวว่า “ความพยายามทั้งหมดเพื่อทำให้ความเห็นกลายเป็นการสนทนาที่มีคุณภาพ”
การเปลี่ยนแปลงนี้ที่จะเริ่มขึ้นภายในสัปดาห์นี้ แต่จะยังไม่เกิดขึ้นกับทุกวิดีโอคลิปบนยูทิวบ์ โดยทางทีมงานจะเริ่มทดลองกับยูทิวบ์แชนแนลของเจ้าของที่เชื่อมแอคเคาตน์กูเกิลพลัสเข้ากับยูทิวบ์แชนแนลส่วนตัวเสียก่อน โดยผู้ใช้งานจะสามารถคุยผ่าน “Discussion Tab” ซึ่งจะสามารถออกความเห็นได้ทั้งส่วนตัวในวงเพื่อนบนกูเกิลพลัส หรือในทางสาธารณะที่ผู้ใช้งานในระบบทั้งหมดสามารถเห็นได้ และการจัดเรียงรูปแบบการแสดงความคิดเห็นแบบใหม่จะเหมือนกับ “thread” ของ Gmail ที่กูเกิลอ้างว่าจะช่วยให้ผู้ใช้หาได้ง่ายขึ้น
ในการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี้ กูเกิลต้องการให้ “กูเกิลพลัส” ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงหน้า “เฟซบุ๊ก” โดยมียูทิวบ์เป็นหนึ่งในโซเชียลมีเดียของกูเกิลพลัส อย่างไรก็ตาม ทางยูทิวบ์อ้างว่า การที่ให้ผู้โพสต์ทุกรายต้องโพสต์ผ่านแอคเคาตน์ของกูเกิลพลัสนั้นเป็นเพราะ “ผู้ใช้ส่วนใหญ่ของยูทิวบ์นั้นใช้กูเกิลพลัสอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่ใช้ยูทิวบ์นั้นจะแทบไม่เห็นความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลง” และที่ผ่านมายูทิวบ์ได้กระตุ้นให้ผู้ใช้ที่มีแอคเคาตน์กูเกิลพลัสใช้ชื่อจริงในการออกความเห็นโดยอ้างว่า เพื่อเป็นการง่ายในการหาบุคคลโพสต์ข้อความ และเป็นการตัดปัญหาสแปมที่มักเป็นโฆษณาขายสินค้าและบริการ
อย่างไรก็ตาม ยูทิวบ์ที่มียอดผู้ข้าชมเว็บไซต์เดือนละกว่าพันล้านคนโดยที่ไม่มีไอพี แอดเดรสซ้ำกัน อาจต้องเผชิญหน้ากับความไม่พอใจของผู้ใช้ที่ไม่อนุญาตให้โพสต์ความเห็นได้แบบนิรนามและข้อจำกัดที่เพิ่มมากขึ้นในการได้รับบริการ