เอพี/เอเจนซีส์ – เครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบินแควนตัสลำหนึ่งทำให้ผู้โดยสารทั้งหมด 370 ชีวิตต้องแกร่วอยู่ในโรงแรมที่ซิดนีย์ตลอดทั้งคืนวานนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากพบงูตัวเล็กในห้องโดยสาร สายการบินแถลงวันนี้ (23)
เจ้าหน้าที่สายการบินนี้พบงูยาว 20 เซนติเมตรในห้องโดยสารบริเวณใกล้ประตู ก่อนที่จะให้ผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนานาชาติซิดนีย์ขึ้นเครื่อง เพื่อเดินทางไปโตเกียวเมื่อช่วงดึกของคืนวานนี้ (22) แควนตัสระบุในคำแถลง
สายการบินขนาดใหญ่ของออสเตรเลียเจ้านี้ กล่าวว่า ได้ส่งผู้โดยสารเข้าพักที่โรงแรมเมื่อคืนนี้ และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (23) พวกเขาได้เดินทางออกจากซิดนีย์โดยเครื่องบินอีกลำแล้ว
แควนตัสชี้แจงว่า เครื่องบินลำดังกล่าวจะถูกนำไปพ่นควันก่อนที่จะนำกลับมาให้บริการได้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันหากงูตัวดังกล่าวเป็นงูพิษ และมีตัวอื่นๆ ติดอยู่ในเครื่องบินอีก
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ได้นำเจ้างูตัวนั้นไปตรวจสอบแล้ว
ทางด้าน กระทรวงเกษตรของออสเตรเลียระบุในคำแถลงว่า วันนี้ (23) งูตัวนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของนักสัตววิทยา และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นพันธุ์อะไร
อย่างไรก็ตาม ทั้งทางกระทรวงเกษตรและสายการบินต่างก็ยังไม่ได้ชี้แจงว่า เจ้างูตัวนั้นเข้าไปอยู่ในเครื่องบินได้อย่างไร และชะตากรรมของมันก็ยังคงไม่ได้รับการเปิดเผย
เครื่องบินลำนี้จอดอยู่ที่ลานจอดในสนามบิน นับตั้งแต่เดินทางออกจากสิงคโปร์มาถึงซิดนีย์เมื่อวันเสาร์ (21)
ถึงแม้ว่างูนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามทางอากาศ แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สายการบินแควนตัสก็เคยพบงูหลามยาว 3 เมตร ที่บริเวณปีกของเครื่องบิน ซึ่งบินจากแคร์นส์ เมืองชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ไปยังปาปัวนิวกินี โดยงูหลามตัวนั้นตายตั้งแต่เครื่องบินยังไม่ลงจอด ทว่ามันยังคงติดอยู่ที่ปีกจนเที่ยวบินที่กินเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเที่ยวนั้นสิ้นสุดลง เมื่อเครื่องลงจอดในกรุงพอร์ตมอร์สบี ของปาปัวนิวกินี