เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - วอร์เรน เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชื่อก้องโลกชาวอเมริกัน เจ้าของตำแหน่งหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เผยในวันพฤหัสบดี (19) โดยระบุ บุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดในสายตาของเขาที่จะเข้ามารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (U.S. Federal Reserve Chairman) คนใหม่ต่อจาก เบน เบอร์นันกี ก็คือ … เบน เบอร์นันกี นั่นเอง โดย บัฟเฟตต์ ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังไม่หลุดพ้นภาวะซบเซาอาจดิ่งเหวหากเบอร์นันกี ไม่อยู่ในตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3
บัฟเฟตต์ ซึ่งเพิ่งมีอายุครบ 83 ปี ไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คือ บุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะนั่งในตำแหน่งนี้
แม้จะเป็นที่คาดกันว่าเบอร์นันกี วัย 59 ปี ซึ่งรับตำแหน่งประธานเฟดมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2006 ในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช นั้น มีความต้องการก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากครบวาระสมัยที่สองในเดือนมกราคมปีหน้า
“สำหรับผมแล้ว ตัวเลือกในตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนต่อจาก เบน เบอร์นันกี ก็คือ เบอร์นันกีนั่นเอง ผมมั่นใจว่า ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายใหญ่ของเฟดมากไปกว่าเขาอีกแล้ว” บัฟเฟตต์ ประธานและซีอีโอของบริษัท เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ กล่าว
ท่าทีล่าสุดของบัฟเฟตต์ซึ่งมีทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 58,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.81 ล้านล้านบาท) มีขึ้นหลังจากที่ นายแลร์รี ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯสมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน และที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ตัดสินใจถอนตัวจากการรับการพิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟดคนต่อไป ส่งผลให้ นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟดคนปัจจุบันกลายเป็น “เต็งหนึ่ง” ที่จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทนเบอร์นันกีทันที
“ผมไม่รู้จัก เจเน็ต เยลเลน และความไม่รู้นี้ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อบรรดานักลงทุน รวมถึงตัวผม ดังนั้น ผมขอยืนยันว่า เบน เบอร์นันกี คือตัวเลือกอันดับหนึ่งและเป็นตัวเลือกเดียวของผมในตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป” บัฟเฟตต์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทม์ส
บัฟเฟตต์ยังเตือนว่า การเปลี่ยนตัวประธานเฟด ซึ่งเป็น “หัวเรือใหญ่” ที่ทรงอิทธิพลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกแบบกลางคันในภาวะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯเองยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และซบเซาเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งยวด ถึงแม้เขาจะตระหนักดีว่า ประธานาธิบดี โอบามาเองก็ไม่มีแนวโน้มที่จะขอให้เบน เบอร์นันกี อยู่ในตำแหน่งต่อไปก็ตาม