เอเอฟพี – ศาลญี่ปุ่นมีคำพิพากษาให้โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งจ่ายเงินชดเชยรวม 170 ล้านเยน (ราว 54.5 ล้านบาท) แก่ผู้ปกครองของนักเรียน 4 คนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2011 เนื่องจากรถโรงเรียนที่กำลังส่งเด็กๆ กลับบ้านขับตรงเข้าหาคลื่นยักษ์ที่กำลังซัดเข้าฝั่ง
เหตุสลดนี้เกิดขึ้นที่เมืองอิชิโนะมากิ จังหวัดมิยางิ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากสึนามิมากที่สุด โดยหลังจากคลื่นซัดเข้าสู่ชายฝั่งได้เพียงไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่โรงเรียนอนุบาลฮิโยริซึ่งหนีตายขึ้นไปบนเนินเขาก็ได้ส่งนักเรียนเล็กๆ กลับบ้าน โดยใช้เส้นทางที่มุ่งไปสู่ชายทะเล
รถโรงเรียนคันดังกล่าวถูกมวลน้ำมหาศาลถาโถมเข้าใส่บนถนนชายทะเล แม้คนขับจะพยายามกลับรถหนีแต่ก็สายเกินไป ทำให้เด็กนักเรียน 5 คนและหญิงคนหนึ่งต้องเสียชีวิต
ศาลแขวงเมืองเซนไดมีคำสั่งให้ทางโรงเรียนและครูใหญ่ในเวลานั้นจ่ายค่าชดเชยแก่ครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตเป็นวงเงินรวม 170 ล้านเยน ซึ่งสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกที่ศาลสั่งให้บริษัทเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องรับผิดชอบต่อการตายของบุคคลในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อ 2 ปีก่อน
ผู้บริหารโรงเรียนอ้างว่า เจ้าหน้าที่ไม่อาจทราบได้ว่าเส้นทางใดจะไปเจอกับคลื่นสึนามิ และการส่งเด็กๆ กลับบ้านทันทีที่เกิดภัยพิบัติก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว
อย่างไรก็ดี สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคได้อ้างคำแถลงของหัวหน้าผู้พิพากษา โนริโอะ ไซกิ ซึ่งโต้แย้งว่า โรงเรียนมีหน้าที่จะต้อง “ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด หลังจากเจ้าหน้าที่เริ่มรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่กินเวลานานถึง 3 นาที... แต่ปรากฏว่าโรงเรียนไม่ได้ตรวจสอบสถานการณ์ให้ถี่ถ้วน และส่งรถโรงเรียนออกไปในเส้นทางที่เสี่ยงต่อคลื่นยักษ์”
สึนามิที่ซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ได้คร่าชีวิตพลเมืองปลาดิบไปไม่น้อยกว่า 18,000 คน ส่วนที่รอดอีกนับแสนก็ต้องไร้ที่อยู่ ซึ่งถือเป็นหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2