เอเจนซี/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ หวังว่าการเจรจาแผนทำลายอาวุธเคมีซีเรียจะประสบความสำเร็จ แต่ยืนกรานข้อตกลงใดๆ ต้องสามารถพิสูจน์และบังคับใช้ได้จริง ความเห็นที่มีขึ้นขณะที่การหารือเกี่ยวกับแผนดังกล่าวระหว่างอเมริกากับรัสเซียยืดเยื้อตามคาดและล่วงเลยเข้าสู่ช่วงค่ำวันศุกร์ (13) ขณะเดียวกันคาดหมายว่าสหประชาชาติจะเผยแพร่รายงานผลการลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีใกล้กรุงดามัสกัสในสัปดาห์หน้า และช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองก็จะดำเนินการตรวจสอบคำร้องของซีเรียที่ขอเข้าเป็นสมาชิกสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมีด้วย
โอบามา แสดงความคิดเห็นหลังจากเปิดห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาว พูดคุยกับ เชค ซอบะห์ อัลอะห์มัด อัลจาบีร์ อัลซอบะห์ เจ้าผู้ครองรัฐคูเวต “ผมหวังว่าการพูดคุยที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ระหว่างจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศและนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในเจนีวา จะสัมฤทธิ์ผล แต่ผมขอย้ำกับสิ่งที่ผมเคยพูดกับสาธารณะว่า ไม่ว่าข้อตกลงใดๆ ควรสามารถพิสูจน์และบังคับใช้ได้จริง” เขากล่าว
นายเคร์รีและลาฟรอฟ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีจากสองประเทศ กำลังหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของแผนปลดอาวุธเคมีที่ริเริ่มโดยรัสเซียเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางมอสโกไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนมากนัก แต่สื่อมวลชนรายงานว่าจะประกอบด้วย 4 ขั้นตอนได้แก่การที่ซีเรียเข้าร่วมองค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) แล้วเปิดเผยที่ตั้งคลังอาวุธเคมี ตามมาด้วยการยินยอมให้เจ้าหน้าที่โอพีซีดับเบิลยูเข้าตรวจสอบ และสุดท้ายคือดำเนินการทำลายหัวรบอาวุธเคมี
เบื้องต้นมีความคาดหมายว่าการหารือที่กำหนดไว้ 2 วัน และเริ่มต้นตั้งแต่วันพฤหัสบดี (12) มีสิทธิ์ยืดเยื้อไปถึงช่วงสุดสุดสัปดาห์ ซึ่งล่าสุดแนวโน้มก็อาจเป็นไปตามที่คาดเมื่อทางโฆษกของนายลาฟรอฟ ออกมาเผยว่าการพูดคุยเกี่ยวกับการปลดอาวุธเคมีซีเรียให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติจะคงดำเนินต่อไปแม้ล่วงเลยเข้าสู่ค่ำคืนวันศุกร์(13) แล้วก็ตาม “เรายังอยู่ที่นี่ บางทีสุดท้ายอาจจะต้องหารือตลอดทั้งคืน” เธอบอกกับผู้สื่อข่าวที่เจนีวา “ฉันไม่มันใจเรื่องวันพรุ่งนี้(วันเสาร์) แต่ที่แน่ๆ คือคืนนี้จะมีการพูดคุยกันต่อ”
ข้อเสนอที่ริเริ่มโดยรัสเซียในนาทีสุดท้าย เป็นผลให้ประธานาธิบดีโอบามา ต้องถอนแผนโจมตีทางทหารตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ถูกกล่าวหาใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนของตนเองเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งนี้นายอัสซาด ยืนยันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (12) ว่าดามัสกัสมีแผนวางมือจากอาวุธเคมี และทางวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญก็เรียกร้องให้โลกจริงจังกับคำพูดของสหายรายนี้
ในวันพฤหัสบดี (12) เช่นกัน ทางซีเรีย ได้ยื่นเอกสาร ณ สหประชาชาติเพื่อเข้าร่วมในสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมีและตอนนี้กำลังพิจารณาเข้าเป็นสมาชิกแบบเต็มตัว ในเรื่องนี้ทางโฆษกสหประชาชาติเผยวันศุกร์ (13) ว่าทางองค์กรได้สอบถามไปยังดามัสกัสเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัคร แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยว่ามีส่วนไหนของเอกสารที่ขาดตกบกพร่องไป “เรากำลังติดต่อกับรัฐบาลซีเรียเกี่ยวกับการยื่นสมัครของพวกเขา เราอยากได้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้กระบวนการเข้าเป็นภาคีเสร็จสมบูรณ์”
ทั้งหน่วยงานเฝ้าระวังอาวุธเคมีของสหประชาชาติมีแผนเปิดประชุมเพื่อตรวจสอบคำร้องขอเข้าร่วมสนธิสัญญาสากลว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมีของซีเรียในสัปดาห์หน้า “คณะกรรมการขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) จะประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องของซีเรีย” โฆษกขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมีระบุ
ซีเรีย เป็น 1 ใน 7 ชาติสมาชิกสหประชาชาติที่ปฏิเสธเข้าร่วมสนธิสัญญาเมื่อปี 1993 ที่ห้ามผลิตและสะสมอาวุธเคมี แต่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แถลงยืนยันว่าพวกเขาจะลงนามในส่วนหนึ่งของแผนปลดอาวุธเคมีที่ริเริ่มโดยรัสเซีย อย่างไรก็ตามสหรัฐฯได้เตือนไปยังรัฐบาลซีเรียว่าจำเป็นต้องมีก้าวย่างอื่นๆเพิ่มเติ่ม ก่อนที่พวกเขาจะถอนปฏิบัติการทางทหารออกจากโต๊ะ ด้วยนายเคร์รีบอกว่า “มันยังไม่เพียงพอ”
ความกังวลต่อความจริงใจของนายอัสซาด โหมกระพือขึ้นมาอีกในวันศุกร์ (13) หลังมีรายงานว่าหน่วยทหารลับของซีเรียกำลังลักลอบเคลื่อนย้ายคลังอาวุธเคมีไปทั่วประเทศ โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัลด์ รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่อเมริกาและตะวันออกกลางระบุว่าหน่วยนี้ได้รับบัญชาให้รับผิดชอบเคลื่อนย้ายอาวุธและกระสุนแก๊สพิษไปยังตำแหน่งต่างๆทั่วซีเรีย
สหรัฐฯ และฝรั่งเศส ผู้หนุนหลังสำคัญของวอชิงตันต่อแผนโจมตีทางทหารต่อซีเรีย เตือนว่าจะไม่ยอมให้แผนปลดอาวุธเคมีกลายเป็นแทคติกถ่วงเวลาในความขัดแย้งของซีเรีย ที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 110,000 ศพ นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011 ขณะที่วอชิงตันกล่าวหาว่ารัฐบาลนายอัสซาด ใช้อาวุธเคมีโจมตีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม จนมีพลเรือนเสียชีวิตราว 1,400 คน
นอกจากพิจารณาเอกสารสมัครเข้าร่วมสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมีแล้ว ในสัปดาห์หน้าเช่นกันที่คาดหมายกันว่าทางผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ จะรายงานผลตรวจสอบการใช้เคมีโจมตีใกล้กรุงดามัสกัส ไปยังเลขาธิการสหประชาชาติ “ผมคาดหมายว่ารายงานนี้จะรายงานอย่างท่วมท้นว่ามีการใช้อาวุธเคมี” บัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว
คณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีของสหประชาชาติลงพื้นที่ใกล้กรุงดามัสกัส ราว 1 สัปดาห์ หลังจากมีการกล่าวหาว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน ทั้งนี้คาดหมายว่านายอาเค เซลสตรอม หัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบจะส่งมอบรายงานของเขาในวันจันทร์ (16) ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดผลการสืบสวนเล็ดลอดออกมา และนายเซลสตรอม ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เจาะจงในรายงานว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี