กู้คะแนน! “นาจิบ” ผุดนโยบายเกื้อหนุน “คนมาเลย์” ให้มีบทบาททาง ศก.สูงขึ้น

รอยเตอร์ – นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ผุดนโยบายช่วยเหลือและส่งเสริมให้ชาวมาเลย์ซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศได้มีบทบาททางเศรษฐกิจสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณ “กลับลำ” จากคำมั่นสัญญาเดิมที่ว่าจะไม่เอื้อประโยชน์ต่อพวก “ภูมิปุตรา”

มาตรการอุดหนุนชาวมาเลย์จะถูกประกาศในวันเสาร์ (14) ระหว่างที่ นาจิบเร่งกู้คะแนนนิยมของตนเอง ก่อนจะมีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคอัมโนคนใหม่ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้

ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤษภาคมพบว่า แนวร่วมรัฐบาล บาริซัน เนชันแนล (บีเอ็น) ซึ่งมีพรรคอัมโน เป็นแกนนำ แทบจะไม่ได้คะแนนโหวตจากชาวจีนกลุ่มน้อยในมาเลเซียเลย

หนังสือพิมพ์นิวสเตรทไทม์ส อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งเผยว่า มาตรการอุดหนุนของนาจิบ จะครอบคลุมทั้งในด้านการถือครองหุ้น (equity ownership), การประกอบธุรกิจ, ทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนการพัฒนาด้านสังคมและเศรษฐกิจ

นายกฯมาเลเซีย ยังมีแผนเพิ่มความแข็งแกร่งของสถาบันรัฐซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมบทบาททางเศรษฐกิจของคนมาเลย์ หรือที่เรียกกันว่าพวก “ภูมิปุตรา”

อับดุล วาฮิด โอมาร์ รัฐมนตรีฝ่ายการเงินประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อ นิว สเตรทไทม์ส ว่ารัฐบาลต้องการเพิ่มโอกาสแก่ชาวมาเลย์ในการทำงานภาคเอกชน และจะช่วยให้คนกลุ่มนี้มีโอกาสเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทางธุรกิจมากขึ้น

“ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ ภูมิปุตราขาดโอกาสในการทำงานภาคเอกชน โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้บริหาร” เขากล่าว

หลายสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียได้ให้สิทธิพิเศษหลายอย่างต่อชาวมาเลย์ ซึ่งเป็นประชากรร้อยละ 60 จากทั้งหมด 28 ล้านคนในประเทศ

ชาวมาเลย์ส่วนใหญ่ยังมีฐานะยากจนและอาศัยอยู่ในเขตชนบท ส่วนชาวจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของประชากรมาเลเซียจะมีฐานะดีกว่า และยังแผ่อิทธิพลครอบคลุมทั้งในด้านการค้าและเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อ นาจิบ ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำมาเลเซียในปี 2009 เขาเคยประกาศตัวเป็น “ผู้นำหัวสมัยใหม่” ที่ไม่นิยมให้รัฐมอบสิทธิพิเศษแก่ภูมิปุตรา ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการแข่งขันของมาเลเซีย และยังสร้างความไม่พอใจต่อพลเมืองกลุ่มน้อยด้วย เขายังชี้ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือพลเมืองทุกกลุ่มที่มีความเดือดร้อน โดยไม่เน้นที่ “เชื้อชาติ”

อย่างไรก็ดี นโยบายของนาจิบถูกต่อต้านอย่างหนักจากในพรรคอัมโนเอง จนแทบไม่มีอะไรคืบหน้า

ฐานอำนาจของนาจิบตกสู่ภาวะสุ่มเสี่ยงมากขึ้น เมื่อกลุ่มบีเอ็นแพ้คะแนนป็อปปูลาร์โหวตในศึกเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ทำให้พรรครัฐบาลได้ที่นั่งในสภาลดลง และยังแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกที่ชัดเจนระหว่างพลเมืองเชื้อสายมาเลย์กับชาวจีนกลุ่มน้อย จนทำให้ นาจิบ ต้องหันไปงอนง้อขอการสนับสนุนจากพวกหัวเก่าในพรรคอัมโน รวมถึงอดีตนายกฯ มหาธีร์ โมฮัมหมัด ผู้ทรงอิทธิพล

เป็นเวลานานกว่า 40 ปีที่ชาวมาเลย์ได้รับสิทธิพิเศษจากรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ ไม่ว่าจะเป็นโควตานักศึกษา, การเข้ารับราชการ และสัดส่วนการเป็นเจ้าของธุรกิจที่รัฐบาลรับรองให้

นักวิจารณ์บางคนชี้ว่า มาตรการเช่นนี้เอื้อประโยชน์เฉพาะชาวมาเลย์ที่มีฐานะร่ำรวยและเส้นสายดีมากกว่าคนยากจน และยังกดดันให้พลเมืองเชื้อสายจีนเกิดอาการ “สมองไหล” ย้ายถิ่นฐานไปแสวงหาโอกาสในประเทศอื่น