นราธิวาส - กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย หนุนพูดคุยสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ เชื่อต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เผยสื่อมาเลย์ให้ความสนใจนำเสนอข่าวการพุดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับแกนนำบีอาร์เอ็นอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรกฤษณ์ กาญจนศูนย์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ยังเชื่อมั่นว่าการพูดคุยสันติภาพคือแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่ควรดำเนินการต่อไป ซึ่งที่มีการมองว่ามีการพูดคุยกันแล้วแต่เหตุการณ์ยังไม่สงบนั้น ในเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่ตนเองอยู่นอกวงพูดคุยสันติภาพ และมองเข้ามาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการทำงานในประเทศมาเลเซีย ทำให้เห็นว่ายังมีองค์ประกอบส่วนอื่นๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง รวมทั้งจำเป็นต้องดึงภาคส่วนต่างๆ นอกเหนือจากการพูดคุยสันติภาพที่มีอยู่เดิม มาพูดคุยสันติภาพเพิ่มเติมเพื่อให้มีการแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน
ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไทยก็ได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเดียวกัน ความร่วมมือของรัฐบาลไทย และรัฐบาลมาเลเซียก็ยังมีความเป็นเอกภาพที่จะแสวงหาทางออกเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู กล่าวเพิ่มเติมว่า สื่อทุกแขนงของประเทศมาเลเซียให้ความสำคัญกับการติดตามผลการพูดคุยสันติภาพระหว่างผู้แทนฝ่ายไทยกับกลุ่มแกนนำบีอาร์เอ็น โดยมีการนำเสนอข่าวอย่างครึกโครมทุกครั้งที่มีการพูดคุยสันติภาพ ส่วนชาวมาเลเซียในรัฐกลันตัน และเพื่อนคนไทยอย่างสมาชิกในกลุ่มเฟรนด์ ออฟ ไทยแลนด์ ก็ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะแม้จะมีการเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นปกติ ในขณะที่ยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็อยากเห็นจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาสงบสุข ปลอดภัยต่อพี่น้องคนไทย และชาวมาเลเซียที่เข้ามาในพื้นที่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรกฤษณ์ กาญจนศูนย์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ยังเชื่อมั่นว่าการพูดคุยสันติภาพคือแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่ควรดำเนินการต่อไป ซึ่งที่มีการมองว่ามีการพูดคุยกันแล้วแต่เหตุการณ์ยังไม่สงบนั้น ในเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่ตนเองอยู่นอกวงพูดคุยสันติภาพ และมองเข้ามาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการทำงานในประเทศมาเลเซีย ทำให้เห็นว่ายังมีองค์ประกอบส่วนอื่นๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง รวมทั้งจำเป็นต้องดึงภาคส่วนต่างๆ นอกเหนือจากการพูดคุยสันติภาพที่มีอยู่เดิม มาพูดคุยสันติภาพเพิ่มเติมเพื่อให้มีการแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน
ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไทยก็ได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเดียวกัน ความร่วมมือของรัฐบาลไทย และรัฐบาลมาเลเซียก็ยังมีความเป็นเอกภาพที่จะแสวงหาทางออกเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู กล่าวเพิ่มเติมว่า สื่อทุกแขนงของประเทศมาเลเซียให้ความสำคัญกับการติดตามผลการพูดคุยสันติภาพระหว่างผู้แทนฝ่ายไทยกับกลุ่มแกนนำบีอาร์เอ็น โดยมีการนำเสนอข่าวอย่างครึกโครมทุกครั้งที่มีการพูดคุยสันติภาพ ส่วนชาวมาเลเซียในรัฐกลันตัน และเพื่อนคนไทยอย่างสมาชิกในกลุ่มเฟรนด์ ออฟ ไทยแลนด์ ก็ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะแม้จะมีการเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นปกติ ในขณะที่ยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็อยากเห็นจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาสงบสุข ปลอดภัยต่อพี่น้องคนไทย และชาวมาเลเซียที่เข้ามาในพื้นที่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
