เอเอฟพี - หนุ่มแอฟริกันซึ่งเคยถูกรัฐบาลนิวซีแลนด์ ขู่จะเนรเทศเพราะ “อ้วน” เกินเหตุ ได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในเมืองกีวีต่อได้อีก 23 เดือน วันนี้ (9)
อย่างไรก็ตาม อัลเบิร์ต บุยเทนฮุส จะไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือจากองค์กรสาธารณสุขใดๆ ตลอด 2 ปีข้างหน้า นิคกิ เคย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง ระบุ
บุยเทนฮุส ซึ่งมีน้ำหนัก 130 กิโลกรัม (286 ปอนด์) ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว หลังคำร้องต่ออายุวีซ่าของเขาถูกปฏิเสธ เพียงเพราะโรคอ้วนของเขาจะกลายเป็น “ภาระ” ของระบบสาธารณสุขเมืองกีวี
ตอนที่ บุยเทนฮุส และภรรยา มาธี ย้ายจากแอฟริกาใต้มาที่เมืองไครสต์เชิร์ช เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เขาเคยมีน้ำหนักถึง 160 กิโลกรัม และการต่ออายุวีซ่าก็ไม่มีปัญหาจนกระทั่งปีนี้
หลังจากทบทวนข้อมูลที่นำไปสู่คำสั่งเนรเทศ เคย์กล่าวว่า เธอได้ตัดสินใจที่ต่ออายุวีซ่าทำงานเป็นเวลา 23 เดือนให้แก่ บุยเทนฮุส
“ภายใต้ข้อตกลงนี้ เขาจะไม่ได้รับสิทธิรับเงินช่วยเหลือจากองค์กรด้านสาธารณสุขใดๆ และเขาจะต้องใช้เงินส่วนตัวในการพบแพทย์”
บุยเทนฮุส ซึ่งเขียนเรื่องราวอันขมขื่นของเขาในเว็บบล็อก โดยใช้ชื่อว่า “The Too Fat Chef” กล่าวกับสำนักข่าว แฟร์แฟกซ์ ว่าการตัดสินใจของรัฐบาลนั้นเป็นผลลัพธ์ที่ “สุขปนเศร้า” สำหรับเขา
“แน่นอน เรายินดีและโล่งใจ ที่เรายังสามารถอยู่ต่อได้ มันเยี่ยมทีเดียว แต่ขณะเดียวกัน เราอยากจะย้อนเวลากลับไป เพื่อที่เรื่องเหล่านี้จะได้ไม่เกิดขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่ลำบากสำหรับเราทั้งคู่” อัลเบิร์ต กล่าว
“เราต้องมาเริ่มใหม่อีกครั้ง เราเสียเงินไปหลายพันดอลลาร์ ในการต่อสู้ครั้งนี้ และเราไม่รู้ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนเนื่องจากเราได้สูญบ้านของเราไปแล้ว ผมดีใจที่การต่อสู้ครั้งนี้มันจบลง แต่ผมยังคงหวาดกลัวกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า”
โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าว ในเดือนกรกฎาคมว่า บุยเทนฮุสถูกปฏิเสธคำร้อง เนื่องจากโรคอ้วน ซึ่งทำให้เขา “เสี่ยงมาก” ในการเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และอาการหยุดหายใจขณะหลับ
“มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่ผู้อพยพทุกคนควรจะมีสุขภาพที่ดีพอสมควร เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและภาระ ด้านบริการทางสุขภาพของนิว ซีแลนด์” โฆษกกล่าว
รายงานล่าสุดจาก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) พบว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีประชากรป่วยเป็นโรคอ้วนมากที่สุด รองจากสหรัฐฯและเม็กซิโก
