รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – พบตัวชายชาวอุรุกวัยอายุ 58 ปี ซึ่งหายสาบสูญไปในบริเวณเทือกเขาแอนดีสอันห่างไกล เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) โดยเขาบอกว่ารอดพ้นผ่านช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวจนทารุณมาได้ ด้วยการกินหนูและลูกเกดประทังชีวิต สื่อท้องถิ่นรายงาน
ราอุล เฟร์นันโด โกเมซ เซร์กูเนกี เริ่มออกเดินทางข้ามเทือกเขาจากชิลีไปอาร์เจนตินาด้วยการเดินเท้าเมื่อเดือนพฤษภาคม เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเสีย จากนั้นก็มีรายงานว่าเขาหลงทางในช่วงที่เกิดพายุหิมะ
ทางการอาร์เจนตินาในซันฮวน จังหวัดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พบโกเมซโดยบังเอิญในที่พักพิงของเขา ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,840 เมตร ในเวลาที่พวกเขาเดินทางไปวัดระดับหิมะ
โกเมซที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอนั้นยังสามารถกะโผลกกะเผลกมาเปิดประตู เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเขาอยู่ตรงนั้น
“ความจริงก็คือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นปาฏิหาริย์ เรายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นจริง” โฮเซ ลุยส์ เกียวคา ผู้ว่าการจังหวัดซันฮวน กล่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเดียเรียวเดอกูโย “เราให้เขาคุยกับภรรยา แม่ และลูกสาว...เราถามเขาว่า ‘เขามีศรัทธาในพระเจ้าไหม’ แล้วเขาก็ตอบผมว่า ‘ไม่เคยมาก่อน แต่ตอนนี้ผมศรัทธาแล้ว’ ”
น้ำตาล ลูกเกด หนู และบรรดาของเหลือที่อยู่ในที่พักพิงช่วยประทังชีวิตของโกเมซให้อยู่รอดผ่านช่วงฤดูหนาวของซีกโลกใต้ไปได้ เขาน้ำหนักลดลงไป 20 กิโลกรัมในช่วงที่ตกระกำลำบาก และร่างกายมีอาการขาดน้ำ ตามรายงานข่าวของสื่อ
รูปภาพของโกเมซที่ร่างกายผ่ายผอม หนวดเครารุงรัง นอนอยู่บนเตียงได้รับการเผยแพร่ในเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์กลาริน และลานาเซียน ของอาร์เจนตินา
แพทย์ที่ให้การรักษาโกเมซรู้สึกประหลาดใจกับร่างกายอันแข็งแกร่งของชายคนนี้ หนังสือพิมพ์เอลเปส์ ของอุรุกวัย ระบุ
“เขาเป็นคนไข้ที่มีความดันเลือดสูง มีประวัติการสูบบุหรี่และสัญญาณที่ชี้ว่าขาดสารอาหาร” แพทย์ผู้นี้ระบุ แต่ “เขากำลังมีสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ และในอีกไม่กี่วันเราจะอนุญาตให้เขากลับบ้านได้”
เมื่อปี 1972 เครื่องบินลำหนึ่งซึ่งขนส่งทีมนักรักบีอุรุกวัยที่กำลังเดินทางไปชิลี ก็เกิดประสบอุบัติเหตุในบริเวณเทือกเขาแอนดีส ผู้รอดชีวิตบางส่วนต้องกินศพของผู้เสียชีวิตเพื่อประทังชีวิต