รอยเตอร์ – กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียยืนยัน พบหญิงชาวซาอุฯ เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) เพิ่มอีก 2 ราย และยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 2 คน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในซาอุดีอาระเบียขณะนี้ ขยับขึ้นเป็น 44 รายแล้ว
เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส MERS ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับโรคซาร์ส รวมทั้งสิ้น 102 คนในรอบ 1 ปี ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วเกือบครึ่ง
กระทรวงสาธารณสุขซาอุฯ เปิดเผยว่า พบสตรีวัย 41 ปี ซึ่งทำงานด้านสาธารณสุขเสียชีวิตจากเชื้อ MERS ที่กรุงริยาด ส่วนรายที่สองเป็นหญิงชราวัย 79 ปีในเมือง ฮัฟร์ อัล-บาเต็น ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเคยป่วยเป็นโรคอื่นๆมาก่อนแล้ว
เจ้าหน้าที่ยังพบชายอายุ 30 และ 47 ปี ติดเชื้อไวรัส MERS โดยกำลังพักรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหนักที่กรุงริยาดและเมือง ฮัฟร์ อัล-บาเต็น
โคโรนาไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันในตะวันออกกลาง (MERS-CoV) ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอและปอดบวม ถูกพบเป็นครั้งแรกที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อปีที่แล้ว และต่อมาก็มีรายงานผู้ติดเชื้อในกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซีย, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ตูนิเซีย และอังกฤษ
จากผลวิจัยเรื่อง “สัตว์พาหะ” ของไวรัส MERS นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนว่า เชื้อมีการแพร่กระจายผ่านอูฐโหนกเดียวซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
องค์การอนามัยโลกยังไม่ประกาศเตือนให้งดเดินทางไปยังกลุ่มประเทศเสี่ยง แต่ขอให้หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และให้ตรวจหาเชื้อ MERS-CoV หากพบว่าผู้ที่กลับจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ