เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯและวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวันศุกร์(6) หารือกันรอบนอกการประชุมจี20ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก แต่ก็ล้มเหลวในความพยายามก้าวข้ามสะพานแห่งความเห็นต่างต่อกรณีที่อเมริกามีแผนใช้กำลังโจมตีรัฐบาลซีเรีย และด้วยเหตุนี้วอชิงตันจึงส่งสัญญาณว่าจะไม่ง้อ มอสโก โหวตสนับสนุนมติใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อนายบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำดามัสกัส ณ คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติอีกแล้ว และเตรียมเปิดฉากถล่มโดยไม่ขออาณัติใดๆ
ความพยายามบรรเทาความเห็นต่างของทั้งคู่ไม่ได้อะไรมากไปกว่าการที่ ปูติน ต้อนรับขับสู้นายโอบามา ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมจี 20 ขณะที่ทางทำเนียบขาววิพากษ์วิจารณ์รัสเซียอย่างดุเดือดเกี่ยวกับนโยบายของพวกเขาต่อปัญหาความขัดแย้งในซีเรีย ทั้งนี้ ปูติน และ โอมา ใช้เวลาพูดคุยนอกรอบการประชุมราวครึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนเปลี่ยนแปลงต่อประเด็นซีเรีย
"เรานั่งลงและพูดคุยกัน มันเป็นการสนทนนาที่เป็นรูปเป็นร่าง มีความหมายและอย่างมีมิตรไมตรี แต่ละฝ่ายได้แสดงความเห็นของตนเอง" ปูติน บอกกับผู้สื่อข่าว ขณะที่ ยูรี อูชาคอฟ ประธานที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของผู้นำรัสเซีย ก็ยืนยันว่าแม้มีการเจรจาแต่ก็ยังคงมีความเห็นต่างอยู่
ปูตินเป็นหนึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงซีเรีย จากข้อกล่าวหารัฐบาลนายอัสซาด ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม โดยบอกว่าความเคลื่อนไหวใดๆที่ปราศจากอาณัติของสหประชาชาติก็เสมือนเป็นการรุกราน
ในวันศุกร์(6) สหรัฐฯเผยว่าผลการสนทนาไม่เกิดข้อตกลงใดๆแม้แต่น้อยแม้มีความพยายามอย่างยิ่งยวดในการโน้มน้าวรัสเซีย ชาติพันธมิตรสำคัญของซีเรีย และส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการลงโทษต่อรัฐบาลนายอัสซาด แม้จะไม่ได้รับอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ตาม
โอบามา ชมเชยฝรั่งเศส ด้วยบอกว่าเขาพอใจอย่างยิ่งต่อพันธสัญญาของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ที่ให้คำมั่นว่านานาชาติควรตอบโต้อย่างหนักหน่วงต่อพฤติกรรมที่ร้ายกาจนี้ ทั้งนี้หลังจากวอชิงตันส่งอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ไม่สำคัญออกจากกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน จึงมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าสหัฐฯเตรียมโจมตีซีเรียเร็วๆนี้
"สิ่งที่เราเห็นซ้ำๆก็คือรัสเซียปฏิเสธดำเนินการลงโทษรัฐบาลนายอัสซาด" เบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงฝ่ายสื่อสารยุทธศาสตร์ของโอบามากล่าว "เราไม่สามารถให้กระบวนการนี้ไปจบที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย" เขากล่าว
รัสเซียและจีน ชาติสมาชิถาวรคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติที่สามารถใช้สิทธิ์วีโตมติใดๆ เคยใช้สิทธิ์วีโตมติที่เสนอโดยชาติตะวันตกที่มีเป้าหมายเพิ่มแรงกดดันต่อนายอัสซาดถึง 3 ครั้ง เป็นผลให้นับตั้งแต่นับตั้งแต่เหตุจลาจลลุกอือโค่นอำนาจนายอัสซาดปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2011 ยังไม่มีมาตรการคว่ำบาตรใดๆออกมาเลย
ระหว่างการรับประทานอาหารค่ำภายในงานเลี้ยงต้อนรับเหล่าผู้นำชาติต่างๆที่เข้าร่วมประชุมจี10ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดี(5) ผู้นำหลายคน ในนั้นรวมถึง โอบามา ได้แสดงจุดยืนต่อวิกฤตซีเรีย แต่ก็เสมือนเป็นการยืนยันประเด็นนี้ก่อความเห็นต่างไปทั่วโลก
"ความเห็นต่างของเหล่าผู้นำได้รับการยืนยันระหว่างดินเนอร์" ดมิทรี เปสคอฟ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนรัสเซีย "ผู้นำบางรัฐปกป้องมุมมองที่ว่าควรใช้มาตรการต่างๆอย่างเร่งด่วน โดยมองข้ามสถาบันนานาชาติที่ถูกต้องตามกฎหมาย บางรัฐก็ร้องขออย่าลดค่ากฎหมายสากลและตือนว่ามีเพียงคณะมนตรีสหประชาชาติเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสินใจใช้กำลัง"
ด้านบันคีมูน เลขาธิการสหปะชาติ ก็เตือนซ้ำอีกรอบในวันศุกร์(6) ว่าการโจมตีทางทหารอาจซ้ำเติมความรุนแรงระหว่างนิกายในซีเรีย ซึ่งเขาอ้างว่าในประวัติศาสตร์ไม่นานที่ผ่านมา ชาติแห่งนี้ต้องประสบกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน "ผมอยากเตือนว่าการใช้กำลังทหารอาจก่อผลสืบเนื่องร้ายแรงและอาจนำพามาซึ่งหายนะ รวมทั้งซ้ำเติมภัยคุกคามของความรุนแรงระหว่างนิกาย"
วิกฤตซีเรียและแนวโน้มการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซง กลายเป็นประเด็นที่บดบังวาระอย่างเป็นทางการของการประชุมเหล่าผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ ที่นัดหารือเกี่ยวกับกระตุ้นการเติบโตและต่อสู้กับการหลีกเลี่ยงภาษี
ชาติตะวันตกหลายประเทศก็มีความเห็นในทิศทางเดียวกับนายปูติน ที่คัดค้านการใช้กำลงทหาร และหวังจากรัฐสภาอังกฤาโหวตต่อต้านการโจมตี ดังนั้นจึงเหลือแค่ฝรั่งเศส ที่เป็นมหาอำนาจเพียงชาติเดียวที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการเข้าแทรกแซงของสหรัฐฯ
อนึ่งนอกจากนายปูตินแล้ว ก่อนหน้านี้ในตอนเช้าวันศกุร์(6) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้หารือแบบทวิภาคีกับประธานาธิบดีสิน จี้ผิง ของจีน ที่คัดค้านการใช้กำลังทางทหารกับซีเรีย แต่ทางทำเนียบขาวไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของการพูดคุยครั้งนี้
