เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกประกาศเตือนพลเมืองแดนหมีขาวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มี “สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯ” หวั่นพลเมืองรัสเซียถูกจับกุมเพราะ “เกมการเมืองสกปรก” ของรัฐบาลอเมริกัน
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงที่กรุงมอสโกลงวันที่ 2 กันยายนโดยระบุว่า พลเมืองรัสเซียควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศใดก็ตามที่มีการทำสนธิสัญญา “ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน” เอาไว้กับสหรัฐฯ
คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า ขณะนี้พลเมืองรัสเซียกำลังตกเป็นเป้าของบรรดาหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่พลเมืองรัสเซียอาจถูกจับกุมเมื่ออยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีพันธะในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับรัฐบาลวอชิงตัน
ด้านสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า ขณะนี้มีพลเมืองรัสเซียอย่างน้อย 4 รายที่ถูกควบคุมตัวในต่างประเทศตามคำร้องขอของรัฐบาลอเมริกัน คือ ดมิตรี อุสตินอฟ ซึ่งถูกทางการลิธัวเนียจับกุม, ดมิตรี เบโลรอสซอฟ ที่ถูกจับกุมในสเปน, อเล็กซานเดอร์ ปานินซึ่งถูกจับที่สาธารณรัฐโดมินิกัน และมักซิม ชูคาเรฟที่ถูกควบคุมตัวในคอสตาริกา
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเล่น “เกมการเมืองสกปรก” ด้วยการตั้งเป้าเล่นงานพลเมืองของรัสเซียในต่างประเทศด้วยข้อกล่าวหาที่ “เลื่อนลอยและเป็นเท็จ” ซึ่งอาจเป็นความพยายามของรัฐบาลวอชิงตันเพื่อตอบโต้ที่รัสเซียให้ที่ลี้ภัยแก่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของหน่วยงานด้านความมั่นคงในสหรัฐฯที่ออกมาเปิดโปงโครงการสอดแนมลับของรัฐบาลอเมริกัน รวมถึงอาจเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจของรัฐบาล บารัค โอบามาต่อจุดยืนของรัสเซียในการปกป้องรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย
ก่อนหน้านี้ วิกเตอร์ อนาโตลเยวิช บูท นักธุรกิจชาวรัสเซียซึ่งถูกสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเป็นนายหน้าค้าอาวุธได้ถูกทางการไทยส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้กับสหรัฐฯ เมื่อปี 2010 หลังถูกจับกุมในไทยตั้งแต่ปี 2008 และถูกศาลสหรัฐฯตัดสินให้รับโทษจำคุกนาน 25 ปีเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว